🇹🇭🇹🇭ประเทศไทย
ผู้ติดเชื้อสะสม 3,410 ราย ใน 68 จังหวัด (เพิ่มขึ้น 6 ราย)
- เป็นผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่กลับจากต่างประเทศใน State quarantine เพิ่มขึ้น 6 ราย
เสียชีวิตรวม 58 ราย (ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในวันนี้)
รักษาหายป่วยแล้ว 3,237 ราย (94.93%) (ไม่มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้นในวันนี้)
รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 115 ราย (โดยเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศทั้งหมด สำหรับกลุ่มผู้ที่ติดเชื้อภายในประเทศรักษาหายทั้งหมดแล้ว)
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ 6 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้า State quarantine โดยมีรายละเอียดดังนี้
- มาจากประเทศเยอรมนี 2 ราย เข้า State quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่จังหวัดสมุทรปราการ
- มาจากประเทศเอธิโอเปีย 2 ราย เข้า State quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพมหานคร
- มาจากประเทศฟิลิปปินส์ 1 ราย เข้า State quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่จังหวัดชลบุรี
- มาจากประเทศอุซเบกิสถาน 1 ราย เข้า State quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพมหานคร
🌐 สถานการณ์โลกในวันนี้
- สถานการณ์ที่อินเดียน่าเป็นห่วง โดยพบว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังคงทำสถิติสูงที่สุดของการรายงานที่ 76,826 ราย ในขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน ล่าสุดที่ 1,065 ราย จากรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์พบว่ายอดผู้ติดเชื้อเฉพาะในเดือนสิงหาคม มีมากกว่า 1.5 ล้านราย หรือเกือบครึ่งของยอดผู้ติดเชื้อทั้งหมดของอินเดีย
- สถานการณ์ในยุโรปยังน่าเป็นห่วง ฝรั่งเศสมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 6,111 รายทำสถิติสูงสุดของการรายงานในระลอกสอง ซึ่งขณะนี้ฝรั่งเศสได้มีข้อบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากในพื้นที่สาธารณะในเมืองปารีสและเตรียมที่จะขยายออกไปยังเมืองข้างเคียง นอกจากนี้ที่เยอรมนีได้มีมาตรการบังคับเรื่องการสวมหน้ากากเช่นกัน
- เปรู มียอดผู้ติดเชื้อสะสมพุ่งแซงหน้าแอฟริกาใต้มาเป็นอันดับที่ 5 ของโลกแล้ว โดยมียอดสะสมอยู่ที่ 621,997 ราย
- โคลอมเบียยอดผู้ติดเชื้อสะสมแซงหน้าเม็กซิโกขึ้นเป็นอันดับที่ 7 ของโลกแล้วในวันนี้
🌐 สถานการณ์อาเซียนในวันนี้
- พม่า มีผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 602 รายแล้ว โดยยังคงมีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 20 ราย และยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น ทั้งนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เมืองย่างกุ้งซึ่งมีความเชื่อมโยงกับเมืองซิตเว รัฐยะไข่ ศูนย์กลางการระบาดระลอกที่สองของพม่าแล้ว
ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาฯ (อว.)
No comments:
Post a Comment