เลขาธิการ วช. กล่าวต่อว่า ในด้านการประเมินความเสี่ยงด้านการเดินทางระหว่างประเทศนั้น ในสัปดาห์นี้มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญและเป็นข่าวดีของประเทศไทย คือ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ปรับระบบการให้คำแนะนำการเดินทางของคนอเมริกัน จากเดิมที่กระทรวงการต่างประเทศได้ประกาศแนะนำให้คนอเมริกันไม่เดินทางไปต่างประเทศทุกประเทศ (Do Not Travel advisory) ตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม 2563 เป็นต้นมา รวมทั้งศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา ได้ยกระดับความเสี่ยงเรื่องการเดินทางโดยแนะนำให้ไม่เดินทางโดยไม่จำเป็น (Non-essential Travel) นั้น ทั้งนี้ในปัจจุบันประเทศสหรัฐอเมริกาได้ประเมินสถานการณ์ในระดับโลกและระดับประเทศใหม่ เนื่องจากแต่ละประเทศสามารถควบคุมการระบาดได้ไม่เท่ากัน บางแห่งสถานการณ์ดีขึ้นในขณะที่บางแห่งสถานการณ์แย่ลง ดังนั้นจึงได้เปลี่ยนจากการประกาศคำแนะนำการเดินทางรวมกันทั่วโลกมาเป็นการประเมินเป็นรายประเทศ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศและศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา ได้วิเคราะห์จากสถานการณ์การติดเชื้อ ปัจจัยเรื่องการเดินทาง โครงสร้างพื้นฐานและทรัพยากรทางการแพทย์และสาธารณสุข และความเป็นไปได้ในการใช้มาตรการควบคุมและบริหารสถานการณ์ จึงได้ออกเป็นคำแนะนำเรื่องการเดินทางให้กับคนอเมริกันเป็นรายประเทศ ซึ่งจะประเมินสถานการณ์เป็นระยะ
ในการนี้ ประเทศและดินแดนต่างๆส่วนใหญ่ทั่วโลก (207 ในจำนวน 241 ประเทศหรือดินแดน) ยังถูกจัดอยู่ในเขตที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งยังแนะนำให้ไม่เดินทางไปยังประเทศหรือดินแดนดังกล่าว รวมทั้งไม่มีประเทศใดจัดอยู่ในกลุ่มความเสี่ยงปานกลาง และอีก 14 ประเทศมีข้อมูลไม่เพียงพอที่จะประเมินได้
สำหรับประเทศไทย อยู่ในกลุ่มความเสี่ยงต่ำ ซึ่งมีเพียง 7 ประเทศหรือดินแดนเท่านั้น ได้แก่ ไทย นิวซีแลนด์ ฟิจิ หมู่เกาะโบแนเรอ ซาบา ซินต์เอิสตาซียีส และเซนต์บาร์เตเลมี โดยกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำมากอีก 13 ประเทศ/ดินแดน เกือบทั้งหมดเป็นเกาะหรือประเทศขนาดเล็กหรือมีประชากรไม่มาก
สรุปข้อมูลการประเมินความเสี่ยงเพื่อคำแนะนำการเดินทาง โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของประเทศสหรัฐอเมริกา มีดังนี้
1. กลุ่มความเสี่ยงสูง จำนวน 207 ประเทศ/ดินแดน
2. กลุ่มความเสี่ยงปานกลาง ไม่มี
3. กลุ่มความเสี่ยงต่ำ จำนวน 7 ประเทศ/ดินแดน โดยในทวีเอเชีย ได้แก่ ไทย และนิวซีแลนด์
4. กลุ่มความเสี่ยงต่ำมาก จำนวน 13 ประเทศ/ดินแดน โดยในทวีปเอเชีย ได้แก่ บรูไน ลาว มาเก๊า ไต้หวัน ติมอร์-เลสเต
5. กลุ่มที่ไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะประเมิน จำนวน 14 ประเทศ/ดินแดน
📚ประมวลและวิเคราะห์ข้อมูลโดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
No comments:
Post a Comment