นางสาวธัญรัก นาสมยนต์ ผู้จัดการใหญ่ เบ็นคิว ประจำประเทศไทย กล่าวถึงทิศทางการตลาด พร้อมกลยุทธ์การดำเนินงานของแบรนด์ ZOWIE ว่า “ เราได้วาง แบรนด์ ZOWIE เป็นอุปกรณ์กีฬาประเภทกีฬาอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการแข่งขันบนโลกดิจิตอล หรือ อีสปอร์ต ซึ่งเราได้เลือกสรรวัสดุที่มีคุณภาพเพื่อเสริมประสิทธิภาพการใช้งานสูงสุดสำหรับทุกการเล่นเกมหรือการแข่งขันไม่ว่าจะเป็นเมาส์ที่ถูกออกแบบให้เข้ากับลักษณะท่าทางการใช้มือไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย คนถนัดมือซ้ายหรือมือขวาก็สามารถใช้งานเมาส์ ZOWIE ได้อย่างดีเยี่ยม สำหรับจอมอนิเตอร์ เราสามารถพัฒนาเฟรมเรท ออกมาได้อย่างเต็มที่ 240Hz แท้โดยไม่มีการ โอเวอร์คล็อก หรือใช้ เฟิร์มแวร์ ในการบีบอัดเพื่อเรียกตัวเลขสูง และเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้เล่นเกมทั่วไปจนถึงผู้เล่นระดับมืออาชีพ โดยได้มุ่งเน้นการสร้าง Brand Loyalty หรือความจงรักภักดีต่อแบรนด์เพื่อเป็นกระบอกเสียงในการกระจายข่าวสารหรือขยายผลลัพท์การตอบสนองนั้นไปสู่กลุ่มเป้าหมายเป็นวงกว้าง จนเกิดเป็นความต้องการในอนาคต ”
นายวัชรพงษ์ วงษ์มา ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์ เบ็นคิว ประจำประเทศไทย ได้เล่าถึงการเติบโตของแบรนด์ ZOWIE ว่า“ ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้เกิดผลกระทบในการใช้ชีวิตประจำวันกับคนทั่วโลก รวมถึงคนไทยเองจำเป็นต้องกักตัวอยู่ที่บ้านและรักษาระยะห่างทางสังคม ซึ่งแน่นอนว่าภาพรวมเศรษฐกิจและกลุ่มธุรกิจต่างได้รับผลกระทบตามกัน และด้วยไลฟ์สไตล์การเปลี่ยนวิถีชีวิตในรูปแบบ New Normal ซึ่งถือเป็นหนึ่งในปัจจัยให้อุปกรณ์เกมมิ่งและเกมมิ่งเกียร์ได้รับกระแสตอบรับจากผู้เล่นเกมมากขึ้น รวมถึงค่ายเกมมีการปรับตัวให้เข้ากับ New Normal โดยการจัดแข่งขันแบบ Online เพื่อลดระยะห่างทางสังคมจึงทำให้มียอดการสั่งซื้อผลิตภัณท์ ZOWIE ทางออนไลน์จากผู้เล่นเกมเข้ามาจับจองอุปกรณ์เกมมิ่งไปเพื่อฝึกซ้อมหรือไปเล่นที่บ้านแทนส่งผลให้การเติบโตของจอมอนิเตอร์ ZOWIE ประเภท 240Hz ในไตรมาสแรกปี 2020 ได้ส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า26% นอกจากนี้ในปี 2018 -2019 ยังคว้าแชมป์อันดับ 1 ติดต่อกัน 2 ปีซ้อน ด้วยส่วนแบ่งที่ 40.43% และ 50.41% ตามลำดับในขณะจอมอนิเตอร์ ZOWIE ประเภท 144 Hz ที่เหมาะกับการแข่งขันเกม FPS ประเภท PUBG พร้อมมีส่วนแบ่งทางการตลาด 11.40% รั้งอันดับ 5 ในปี 2019 เติบโตขึ้น 21.73% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2018 ”
“ภาพรวมในครึ่งปี 2020 นั้นมีปัจจัยต่างๆ มากมายที่ส่งผลกระทบและทั้งส่งผลสนับสนุนต่อยอดขายจอมอนิเตอร์ที่ตั้งเป้าไว้ภายในสิ้นปี2020 ที่ 60% สำหรับจอมอนิเตอร์ประเภท 240Hz และ 15% สำหรับจอมอนิเตอร์ประเภท 144Hz ทั้งนี้เพื่อเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวแบรนด์ ZOWIE ทางบริษัท เบ็นคิว ประเทศไทย ได้ร่วมลงนามเป็นพันธมิตรกับ บริษัท ห้วยขวาง อีสปอร์ท จำกัด เปิดตัว ZOWIE Esport Center สถานที่สำหรับการทดลองใช้อุปกรณ์กีฬาอีสปอร์ตแบบมาตรฐานสากล”
นายวัชรพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ ZOWIE Esport Center เปรียบเหมือนสนามฝึกซ้อมให้ผู้เล่นได้สัมผัสกับประสบการณ์การเล่นอุปกรณ์เกมมิ่งและเกมมิ่งเกียร์ และหากชอบสินค้าก็สามารถซื้อกลับบ้านได้เลย ซึ่งเรามีจำหน่ายจอมอนิเตอร์, เมาส์, บันจี้ หรืออุปกรณ์จับสายเมาส์, คีย์บอร์ด และอุปกรณ์อื่นๆ ภายใต้แบรนด์ ZOWIE นอกจากนี้ ZOWIE Esport Center ยังถือเป็น Business Model ใหม่ เพื่อตอบโจทย์ให้กับกลุ่มผู้ลงทุนประเภทเจ้าของร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ ที่สนใจสร้างรายได้เพิ่มด้วยการจำหน่ายอุปกรณ์เกมกีฬาอีสปอร์ตของแบรนด์ ZOWIE ด้วยเช่นกัน ”
ZOWIE Esport Centerได้จัดสรรการให้บริการที่มีมาตรฐานอย่างครบวงจร โดยแบ่งออกเป็น พื้นที่สำหรับการจัดการแข่งขันและพื้นที่ให้ผู้ชมสามารถเข้าดูได้แบบมาตรฐาน พื้นที่ ZOWIE FPS Arena ขนาดมากกว่า 100 ตารางเมตร รวมทั้งในโซน Landmark House of Gamer ที่มี ZOWIE Booth Camp พื้นที่ห้องซ้อมส่วนตัวขนาดมาตรฐานพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก หรือโซนหน้าจอใหญ่ เพื่อกลุ่มคนที่ชื่นชอบการเล่นเกมที่ต้องใช้จอใหญ่ไม่ว่าจะเป็น FIFA / DOTA2 / StarCraft / หรือเกมประเภทอื่นๆ และสามารถใช้เป็นสถานที่ทำรายงาน หรือดู Netflix ก็สามารถใช้บริการโซนจอใหญ่ของ BenQ ขนาด 32” 2K ได้ด้วยเช่นเดียวกัน ฉะนั้นแล้ว ZOWIE Esport Center เรียกได้ว่าตอบโจทย์ความหลากหลายทั้งกลุ่มผู้เล่นเกม นักกีฬา หรือกลุ่มที่ต้องการความบันเทิง ได้ทุกรูปแบบและเปิดให้บริการตลอด 24 ชม.
ด้าน นายวรเศรษฐ วงศ์คงมั่นสกุล ผู้ร่วมก่อตั้ง ZOWIE Esport Center แห่งแรกในประเทศไทยได้กล่าวว่า “ ทางเราได้ทำธุรกิจทางด้านร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่มาไม่น้อยกว่า 10 ปี จึงเล็งเห็นถึงความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคในแต่ละยุคสมัย รวมถึงได้มีโอกาสได้ไปดูโครงสร้างโมลเดลของธุรกิจร้านอินเตอร์คาเฟ่ที่ต่างประเทศ จึงได้นำมาต่อยอดและพัฒนาจนกลายมาเป็น Landmark House of Games ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า พร้อมเป็นจุดเริ่มต้นที่ได้พบกับทาง เบ็นคิว ประเทศไทย โดยเราได้ลงทุนงบประมาณ 7 ล้านบาท สำหรับการเปิดร้าน ZOWIE Esport Center ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อของโควิด-19 จึงทำให้ต้องเลื่อนการเปิดร้านฯ มาในช่วงเวลานี้ และในขณะนี้ทางร้านพร้อมเปิดให้บริการแล้วในราคาค่าบริการ 25 บาทต่อชั่วโมง ”
“บรรยากาศภายในZOWIE Esport Center แบ่งออกเป็นโซนสำหรับเล่นเกม ที่มีจุดเด่นเป็นอุปกรณ์เกมมิ่งจอมอนิเตอร์ ZOWIE 240Hz, อุปกรณ์เกมมิ่งเกียร์แบรนด์ ZOWIE ทั้งหมด ส่วนเก้าอี้ (Gaming Chair) เราได้ร่วมกับ Anda Seat เพื่อออกแบบพิมพ์ลายพิเศษตามเอกลักษณ์ของแบรนด์ ZOWIE รวมถึงคอมพิวเตอร์ ได้ใช้รุ่นที่มีสเปคความแรงสูง เพื่อให้ใช้ร่วมกับจอมอนิเตอร์ 240 Hz ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ส่วนอีกโซนเป็นจุดจำหน่ายอุปกรณ์เกมมิ่งและเกมมิ่งเกียร์ภายใต้แบรนด์ ZOWIE และที่สำคัญคือเรามีจุดบริการที่ให้ลูกค้าได้ทดลองใช้งานจริงก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ซึ่งถือได้ว่าเป็นความแตกต่างจากร้านทั่วไป”นายวรเศรษฐกล่าว
“สำหรับที่ตั้งของ ZOWIE Esport Center อยู่ชั้น 2 ของเทสโก้โลตัส เอ็กซ์เพรช ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ ซึ่งการเดินทางอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT สถานีห้วยขวาง รวมถึงยังมีบริการอาหารและเครื่องดื่มตลอด 24 ชั่วโมง และนอกจากนี้ ทางร้านยังมีมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 โดยใช้ระบบเดียวกับห้างสรรพสินค้า ไม่ว่าจะเป็น การสแกน QR Code ไทยชนะ การตรวจวัดไข้ เครื่องฉีดเจลล้างมือตามจุดต่าง ๆ รวมถึงทำความสะอาดอุปกรณ์ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้ออย่างสม่ำเสมอ และมีเครื่องฟอกอากาศในจุดสำคัญอีกด้วย” นายวรเศรษฐกล่าวเสริม
“ZOWIE Esport Center แห่งนี้ ถือเป็น Business Model ใหม่ให้ได้ทดสอบการใช้งานจริง ทางเราให้คำมั่นสัญญาว่าจะพัฒนาและแก้ไขข้อจำกัดต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถสร้างรายได้และผลตอบแทนให้แก่ผู้ลงทุนรายใหม่ในอนาคตได้ก่อนเปิดตัวเต็มรูปแบบ ด้วยการขายแฟรนไซส์แบบโซลูชั่นพร้อมการดูแลรับประกันหลังการขายในอีก 3 – 5 ปีข้างหน้า รวมถึงการสานสัมพันธ์กับผู้ร่วมลงทุนเพื่อเป็นช่องทางการจำหน่ายสินค้าไอทีกลุ่มแบรนด์ที่ตัดสินใจเข้าร่วมกับ Business Model ใหม่ในครั้งนี้ไม่ว่าจะเป็น AMD / Corsair / MSI เป็นต้น” นายวัชรพงษ์ กล่าวปิดท้าย
No comments:
Post a Comment