นายอัศนัย แท่นแก้ว กรรมการบริษัท บริษัทจี-เพาเวอร์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทผู้ให้บริการรับประกันเครื่องยนต์ และการบริการช่วยเหลือฉุกเฉินสำหรับรถยนต์ 24 ชั่วโมง ทั่วประเทศ ภายใต้แบรนด์ MY CAR Service PLUS เปิดเผยว่า จี-เพาเวอร์ กรุ๊ป ได้วางแผนที่จะรุกตลาดการให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉินสำหรับผู้ใช้รถให้มากขึ้น หลังจากบริการ MY CAR Service PLUS ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้รถยนต์ ซึ่งสวนทางกับสภาพเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะชะลอตัวจากผลกระทบของภาวะโควิด-19 โดยบริษัทฯคาดการณ์ว่า ในสิ้นปีนี้จำนวนผู้ใช้บริการ MY CAR Service PLUS จะขยายตัวเพิ่มขึ้น 40% ส่วนในปี 2564 บริษัทตั้งเป้าที่เพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการอีกประมาณ 150,000 คัน
นายอัศนัย กล่าวต่อว่า MY CAR Service PLUS การให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉินสำหรับผู้ใช้รถ ถือเป็นบริการใหม่สำหรับผู้ใช้รถภายในประเทศ ที่ให้การช่วยเหลือผู้ใช้รถในทุกกรณี หากรถไม่สามารถขับเคลื่อนได้ โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง ซึ่งแตกต่างจากการคุ้มครองจากประกันภัย ที่จะให้การช่วยเหลือเมื่อรถประสบอุบัติเหตุเท่านั้น จุดเด่นของบริการช่วยเหลือฉุกเฉินของบริษัท คือ เครือข่ายรถยก-รถสไลด์ ที่มีอยู่ทุกพื้นที่ทั่วประเทศกว่า 3,000 คัน และพร้อมให้การช่วยเหลือผู้ใช้รถตลอด 24 ชั่วโมง ในระยะเวลาที่รวดเร็ว หลังจากที่ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือผ่านทาง Call Center หรือ Application
ส่วนปัจจัยที่ทำให้บริการ MY CAR Service PLUS เติบโตอย่างก้าวกระโดดนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการขยายตัวของตลาดรถยนต์มือสอง ซึ่งนอกจากราคารถที่ถูกกว่าการซื้อรถยนต์ใหม่แล้ว อัตราดอกเบี้ยของการเช่าซื้อรถยนต์มือสองยังได้ลดต่ำลง จนอยู่ในอัตราที่ใกล้เคียงกับการซื้อรถยนต์ใหม่ ทำให้ผู้ใช้ตัดสินที่จะซื้อรถยนต์มือสองมากขึ้น โดยในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์มือสองภายในประเทศได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 30% เมื่อเปรียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา นอกจากนี้สภาพเศรษฐกิจยังทำให้การผู้ใช้รถหันมาใช้ประกันชั้น 2หรือ 3 แทนการซื้อประกันชั้น 1 และซื้อบริการ MY CAR Service PLUS เสริมเพื่อป้องกันความเสี่ยง
ทั้งนี้เพื่อเป็นการรองรับกับจำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มมากขึ้น บริษัทฯได้เตรียมแผนงานที่มุ่งเสริมสร้างศักยภาพทั้งในส่วนของให้การบริการ และด้านการตลาด โดยในส่วนของการให้บริการ บริษัทได้เพิ่มจำนวนรถยก-รถสไลด์ ในทุกพื้นที่ รองรับกับฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น เน้นการยกระดับ และการสร้างมาตราฐานให้เทียบเท่าระดับสากล และการพัฒนา Application อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ครอบคลุมทั้งในส่วนของการให้การความช่วยเหลือ และกิจกรรมอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ ทั้งการให้ความรู้ และสันทนาการ ส่วนด้านการตลาดนั้น นอกจากการสร้างการรับรู้ในแบรนด์แล้ว บริษัทได้มุ่งเน้น และพัฒนา Digital Marketing เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้รถสามารถตัดสินใจ และซื้อบริการได้อย่างรวดเร็ว
MY CAR Service PLUS เป็นบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ให้กับผู้ใช้รถเมื่อเกิดปัญหาระหว่างการใช้งาน จนไม่สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ เช่น เครื่องยนต์ดับ น้ำมันหมด ยางแตก หรือไม่สามารถปลดล็อคประตู เป็นต้น หลังได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือ จะมีเจ้าหน้าที่เดินทางไปจุดเกิดเหตุเพื่อให้การช่วยเหลือ แต่หากไม่สามารถเคลื่อนย้ายรถยนต์ได้ จะมีบริการเคลื่อนย้าย โดยมีเครือข่ายรถยก หรือรถสไลด์ที่พร้อมให้การช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
No comments:
Post a Comment