ความครบถ้วนของโซลูชันทั้ง 3 ระบบของ CAT Digital Farm ประกอบด้วย 1. ระบบแปลงเกษตรอัจฉริยะ (IoT Smart Farm) เซ็นเซอร์ควบคุมน้ำและความชื้นช่วยลดต้นทุนการผลิตในแปลงเกษตรโดยประหยัดเวลาและแรงงาน 2.ระบบซอฟต์แวร์บริหารจัดการวิสาหกิจ (Farm Management) ยกระดับด้านการบริหารจัดการเครือข่ายของวิสาหกิจชุมชน ช่วยให้ผู้นำกลุ่มวิสาหกิจชุมชนสามารถบริหารจัดการข้อมูลสมาชิก ควบคุมปริมาณและประเภท ผลผลิตของสมาชิกให้ตรงความต้องการของตลาด ช่วยเพิ่มอำนาจต่อรองกับตลาดให้ผลผลิตได้ราคาดี และบริหารคลังสินค้า (Inventory) ได้รวดเร็วแม่นยำ และ 3. ระบบการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) โดยเชื่อมโยงวิสาหกิจชุมชนเข้ากับตลาดออนไลน์ ได้แก่ iGet Mart, Thailand Post Mart รวมถึงเฟซบุ๊กเพจ “กลุ่มปลูกผักปลอดสารบ้านหนองหญ้าข้าวนก” ซึ่งจะเป็นการต่อยอดดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งขยายความสามารถในการจำหน่ายสินค้าของวิสาหกิจฯ นอกเหนือจากตลาดหลักคือห้างสรรพสินค้า ตลาดชุมชนต่าง ๆ
นอกจากนี้ ระบบ CAT Digital Farm ได้เชื่อมกับระบบ QR Trace มาตรฐานอาหารปลอดภัยของ มกอช.เพื่อแสดงต้นกำเนิดสินค้าและรับรองว่าเป็นสินค้าปลอดภัยได้ซึ่งช่วยให้สินค้าของชุมชนเพิ่มความสามารถแข่งขันทางการค้า และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ปัจจุบันให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพมาตรฐานและความปลอดภัยของสินค้าเกษตรและอาหารเป็นอย่างมากCAT Digital Farm ต้นแบบโซลูชันเกษตรดิจิทัลครบวงจร สำหรับโครงการ “CAT เพาะพันธุ์ดี” นำมาทดลองใช้งานเป็นแห่งแรก ณ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มปลูกผักปลอดสารบ้านหนองหญ้าข้าวนก จ.ขอนแก่น ออกแบบและพัฒนาโดยทีมงานของ CAT ร่วมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นนวัตกรรมแพลตฟอร์มสำหรับวิสาหกิจชุมชนโดยเฉพาะ ตอบโจทย์ของเกษตรชุมชนได้อย่างครบถ้วนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ จากการผลิตที่มี
ประสิทธิภาพไปจนถึงในการนำสินค้าสู่ผู้บริโภคในทุกตลาดอันจะสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับชุมชนและแก้ปัญหาความยากจนได้อย่างยั่งยืน โดยในอนาคตโครงการ “CAT เพาะพันธุ์ดี” มีแผนพัฒนาโมเดลต้นแบบนี้ให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ และส่งมอบระบบ CAT Digital Farm ให้กับชุมชนอื่น ๆ ได้แก่ โรงเรียนเทศบาล 2
จ.พิจิตร วิสาหกิจชุมชนหนองสาหร่าย จ.กาญจนบุรี และวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเชียงราย จ.เชียงราย
การส่งมอบระบบดิจิทัลฟาร์มให้กับเกษตรกรในพื้นที่ต่าง ๆ เป็นกิจกรรมหลักที่โครงการ CAT เพาะพันธุ์ดี มุ่งมั่นดำเนินการมาตลอด เพื่อนำศักยภาพในด้านการสื่อสารโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสื่อสารดิจิทัลซึ่งเป็นจุดแข็งของ CAT มาสนับสนุนเกษตรกรกลุ่มต่างๆ ให้ก้าวไปสู่การเป็น Smart Farmer และอีกหนึ่งความตั้งใจคือการช่วยแก้ไขปัญหาขจัดความยากจนให้กับเกษตรกร ซึ่งเป็นกลุ่มอาชีพหลักของประเทศ ให้มีเครื่องมือในการพัฒนาวิชาชีพเกษตรโดยใช้เทคโนโลยีทำให้สามารถพัฒนาผลผลิตได้ทั้งคุณภาพและปริมาณ รวมถึงการเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าเกษตรบนแพลตฟอร์มออนไลน์บน e-Market place เพื่อโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้นเนื่องจาก CAT เล็งเห็นความสำคัญของการใช้เทคโนโลยีพัฒนาเกษตรกรรมซึ่งเป็นอาชีพหลักของประชากรไทย และพร้อมนำจุดแข็งของหน่วยงานพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรมรูปแบบดิจิทัลฟาร์มเพื่อสนับสนุนเกษตรกรรมซึ่งเป็นอาชีพหลักของประชากรไทย
นับเป็นผลงานจากการสานต่อและผนึกกำลังความร่วมมืออย่างจริงจังของหน่วยงานภาครัฐ (จังหวัดขอนแก่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เกษตรจังหวัดขอนแก่น อบต.หนองแวง) พร้อมทั้งคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ศูนย์วิจัยและพัฒนาการบริหารจัดการทรัพยากรที่ดินและน้ำแบบบูรณาการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มูลนิธิโคคา โคล่า ศูนย์มีชัยบ้านไผ่ ชุมชนท้องถิ่น เครือข่ายเกษตรกรในพื้นที่ (ศพก., กลุ่ม Young Smart Farmer ) โดยทุกฝ่ายมุ่งบรรลุเป้าหมายการพัฒนาเกษตรแปลงใหญ่ในจังหวัดขอนแก่น และเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาสมาร์ตซิตี้ขอนแก่น ซึ่งนับเป็นหนึ่งในจังหวัดที่ตื่นตัวก้าวหน้าด้านเมืองอัจฉริยะระดับต้น ๆ ของประเทศ
No comments:
Post a Comment