"อว. เผยสถานการณ์โรคโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์" - Thailand Times

Breaking

Post Top Ad

Monday, 8 February 2021

"อว. เผยสถานการณ์โรคโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์"

➡️(8 กุมภาพันธ์ 2564) ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) รายงานผลการประมวลข้อมูลเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ทั่วโลกมีสัญญานแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ต่อวัน จำนวนผู้ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และจำนวนผู้ป่วยเสียชีวิตต่อวันก็ลดลงด้วย โดยในหลายประเทศซึ่งมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมานั้น ในปัจจุบันพบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อได้ทรงตัวและเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะเกิดจากการผ่านจุดสูงสุดของฤดูหนาวไปแล้ว ผ่านพ้นช่วงเทศกาลปลายปีที่มีโอกาสการแพร่เชื้อจำนวนมาก หรืออาจจะเกิดจากผลของการใช้วัคซีนในวงกว้างในหลายประเทศ


ทั้งนี้สถานการณ์การระบาดในระลอกที่ 3 ของสหรัฐอเมริกา มีแนวโน้มดีขึ้นชัดเจน โดยได้ผ่านช่วงที่มีความรุนแรงสูงสุดในช่วงต้นเดือนมกราคม 2564 มาแล้ว และภาพโดยรวมดีขึ้นในทุกมิติ  ทั้งจากจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันที่ค่อยๆ ลดลงตั้งแต่ในช่วงปลายเดือนมกราคม 2564 เป็นต้นมา และจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลก็มีแนวโน้มลดลงเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามในช่วงสัปดาห์นี้โรงพยาบาลยังคงต้องรับภาระหนักในการดูแลผู้ป่วย ซึ่งยังคงอยู่ในระดับสูงมาก นอกจากนี้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเริ่มมีแนวโน้มที่จำนวนผู้เสียชีวิตต่อวันลดลงเล็กน้อย


เมื่อเทียบกับ 2 สัปดาห์ก่อน พบว่า

-จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ต่อวัน ลดลง 30%

-จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ลดลง 24%

-จำนวนผู้เสียชีวิตต่อวัน ลดลง 5%


ทั้งนี้ประธานาธิบดีไบเดน ได้ประกาศเป้าหมายการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ได้ถึง 100 ล้านโดสภายใน 100 วันของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งได้เพิ่มเป้าหมายการฉีดวัคซีนให้ได้ถึง 1.5 ล้านโดสต่อวัน ในขณะนี้ได้คาดการณ์จำนวนผู้ที่ฉีดวัคซีนจากแนวโน้มดังกล่าวว่าเมื่อครบ 100 วันจะมีผู้ได้รับวัคซีนรวมกันแล้วกว่า 147 ล้านโดส นอกจากนี้ ยังคงต้องติดตามว่าสถานการณ์การระบาดในสหรัฐอเมริกาจะสามารถกลับสู่ภาวะปกติได้ภายในปี 2564 จากผลของวัคซีนหรือไม่ หรือไวรัสจะมีการกลายพันธุ์ใหม่ๆ จนวัคซีนไม่สามารถป้องกันได้


แหล่งข้อมูล : BBC, Bloomberg, New York Times

ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ฃ



No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad


Pages