"อว. สรุปข้อมูลการฉีดวัคซีนโควิด 200 ล้านโดส" - Thailand Times

Breaking

Post Top Ad

Monday, 22 February 2021

"อว. สรุปข้อมูลการฉีดวัคซีนโควิด 200 ล้านโดส"

➡️(21 กุมภาพันธ์ 2564) ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยว่า "ขณะนี้ยอดการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลก ได้เกินกว่า 200 ล้านโดสแล้ว นับเป็นวัคซีนที่พัฒนาเร็วที่สุดและฉีดในประชากรจำนวนมากที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยมีกว่า 88 ประเทศที่ได้รับวัคซีนแล้ว ในอัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 6.35 ล้านโดสต่อวัน ประเทศที่ได้รับวัคซีนแล้วส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มประเทศรายได้สูง”


🌏 ในจำนวน 200 ล้านโดสนี้ มีสถิติที่สำคัญ คือ

1. ใช้เวลาในการฉีดวัคซีนถึง 200 ล้านโดส ในเวลา 75 วัน

         โดย 100 ล้านโดสแรก ใช้เวลา 56 วัน ในขณะที่ 100 ล้านโดสที่สอง ใช้เวลาเพียง 19 วัน (เร็วขึ้นสามเท่า)


2. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 10 อันดับแรก

   1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 61.29 ล้านโดส ( 30.29% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)

   2. จีน จำนวน 40.50 ล้านโดส (20.01%)

   3. สหภาพยุโรป 26.23 ล้านโดส (12.96%)

   4. สหราชอาณาจักร 17.85 ล้านโดส (8.82%)

   5. อินเดีย 10.84 ล้านโดส (5.36%)

   6. อิสราเอล 7.13 ล้านโดส (3.52%)

   7. บราซิล 6.63 ล้านโดส (3.28%)

   8. ตุรกี 6.56 ล้านโดส (3.24%)

   9. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 5.55 ล้านโดส (2.74%)

  10. เยอรมนี 4.87 ล้านโดส (2.41%)


3. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วต่อประชากร สูงที่สุด 10 อันดับแรก

   1. อิสราเอล (78.80% ของประชากร)

   2. เซเชลส์ (67.77%)

   3. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (51.66%)

   4. สหราชอาณาจักร (26.73%)

   5. มัลดีฟส์ (18.82%)

   6. สหรัฐอเมริกา (18.46%)

   7. บาห์เรน (18.08%)

   8. เซอร์เบีย (16.41%)

   9. ชิลี (15.09%)

 10. มอลตา (12.56%)


4. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค

   1. เอเชียและตะวันออกกลาง 38.82%

   2. อเมริกาเหนือ 31.86%

   3. ยุโรป 22.91%

   4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 5.15%

   5. แอฟริกา 1.26%

   6. โอเชียเนีย 0%


5. จำนวนการฉีดวัคซีนของผู้ผลิตแต่ละราย (เท่าที่มีข้อมูล)

   1. Phizer/BioNTech 39 ล้านโดส

   2. Moderna 29 ล้านโดส

   3. Sinovac 23 ล้านโดส

   4. AstraZeneca 3 แสนโดส


6. ความเร็วในการฉีดวัคซีน สูงที่สุด 10 อันดับแรก

   1. จีน (วันละ 1.55 ล้านโดส)

   2. สหรัฐอเมริกา (วันละ 1.32 ล้านโดส)

   3. สหภาพยุโรป (วันละ 0.74 ล้านโดส)

   4. อินเดีย (วันละ 0.41 ล้านโดส)

   5. ตุรกี (วันละ 0.39 ล้านโดส)

   6. สหราชอาณาจักร (วันละ 0.39 ล้านโดส)

   7. บังกลาเทศ (วันละ 0.28 ล้านโดส)

   8. บราซิล (วันละ 0.27 ล้านโดส)

   9. โมร็อกโก (วันละ 0.15 ล้านโดส)

  10. ชิลี (วันละ 0.14 ล้านโดส)


7. ยอดจากจองวัคซีนทั่วโลก 9,590 ล้านโดส โดยประเทศที่มีการจองวัคซีนจำนวนมากที่สุด 10 อันดับแรก (เฉพาะข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ) ได้แก่

   1. อินเดีย (2,200 ล้านโดส)

   2. สหรัฐอเมริกา (1,210 ล้านโดส)

   3. สหราชอาณาจักร (417 ล้านโดส)

   4. ญี่ปุ่น (314 ล้านโดส)

   5. อินโดนีเซีย (301 ล้านโดส)

   6. บราซิล (300 ล้านโดส)

   7. จีน (300 ล้านโดส)

   8. แคนาดา (238 ล้านโดส)

   9. เม็กซิโก (211 ล้านโดส)

  10. รัสเซีย (160 ล้านโดส)


8. ประเทศที่จองวัคซีน ตามสัดส่วนประชากรมากที่สุด 10 อันดับแรก

   1. แคนาดา (9.2 เท่าของประชากร)

   2. สหราชอาณาจักร (6.1 เท่าของประชากร)

   3. ออสเตรเลีย (4.9 เท่าของประชากร)

   4. นิวซีแลนด์ (4.4 เท่าของประชากร)

   5. สหรัฐอเมริกา (4.3 เท่าของประชากร)

   6. ชิลี (4.1 เท่าของประชากร)

   7. สวิตเซอร์แลนด์ (3.2 เท่าของประชากร)

   8. เม็กซิโก (3.0 เท่าของประชากร)

   9. อิสราเอล (2.7 เท่าของประชากร)

   10. ญี่ปุ่น (2.5 เท่าของประชากร)


9. วัคซีนที่มีการจองแล้วมากที่สุด

   1. AstraZeneca/Oxford ถูกจองแล้ว 3,009 ล้านโดส

   2. Novavax ถูกจองแล้ว 1,404 ล้านโดส

   3. Pfizer/BioNtech ถูกจองแล้ว 1,220 ล้านโดส

   4. Moderna ถูกจองแล้ว 816 ล้านโดส

   5. Gamaleya ถูกจองแล้ว 763 ล้านโดส

   6. Sanofi/GSK ถูกจองแล้ว 712 ล้านโดส

   7. Johnson & Johnson ถูกจองแล้ว 364 ล้านโดส

   8. Sinovac ถูกจองแล้ว 363 ล้านโดส

   9. Curevac ถูกจองแล้ว 275 ล้านโดส

  10. Sinopharm ถูกจองแล้ว 230 ล้านโดส


10. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้ว 2,321,914 โดส ใน 4 ประเทศ ได้แก่

   1. สิงคโปร์ 256,000 โดส (4.49% ของประชากร) เริ่มฉีดเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2563

   2. อินโดนีเซีย 1,956,725 โดส (0.73% ของประชากร) เริ่มฉีดเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2564

   3. พม่า 104,580 โดส (0.2% ของประชากร) เริ่มฉีดเมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2564

   4. กัมพูชา 4,609 โดส (0.03% ของประชากร) เริ่มฉีดเมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2564

ทั้งนี้ ไทย ลาว มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ คาดว่าจะเริ่มฉีดได้ในเดือน ก.พ. 2564 โดยเวียดนาม และบรูไน ยังไม่ระบุเวลาแน่ชัด


แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, Our World in data

ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) 







No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad


Pages