ภาคปชช. ชงปิดผับทองหล่อ ต้นตอคลัสเตอร์ ละเมิดกฎคุมโรค ทำเชื้อโควิดระบาด จี้สอบการฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. เพิ่มบทลงโทษหนัก ซ้ำปล่อยเด็กต่ำกว่า 20 ปีเข้าพื้นที่
เมื่อวันที่ 13 เม.ย. นายธีรภัทร์ คหะวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน กล่าวถึงกรณีที่สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อได้ดำเนินคดีผู้จัดการร้านคริสตัลคลับ ผู้จัดการเอเมอรัลด์ผับทองหล่อ ความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.สถานบริการ และล่าสุดศาลแขวงพระนครใต้ ได้สั่งจำคุกทั้ง 2 ราย เป็นเวลา 2 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ว่า การเอาผิดกับผู้จัดการร้านนั้นเป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้ว แต่ตนมองว่านี่ไม่ใช่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน เพราะยังมีคนเกี่ยวข้องในขบวนการอีกมาก ทั้งเจ้าของ และอาจรวมไปถึงการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ด้วย ซึ่งเจ้าของร้านตัวจริงยังประกอบกิจการต่อไปได้
ดังนั้นขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบร้านดังกล่าวเข้าข่ายมีความผิดตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 ที่เกี่ยวกับการควบคุมสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ ที่มีบทลงโทษถึงขั้นปิดสถานบริการนั้นหรือไม่ อาทิ ปล่อยให้มีการค้ามนุษย์ มียาเสพติด หรือให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าใช้บริการ เป็นต้น หากเข้าข่ายมีความผิดเจ้าหน้าที่จะต้องเร่งดำเนินการปิดสถานบริการทั้ง 2 แห่งที่เป็นสาเหตุหลักของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในครั้งนี้โดยทันที และตรวจสอบด้วยว่าหากอยู่ในเขตโซนนิ่งจะถูกสั่งผิดถาวร แต่ถ้านอกเขตโซนนิ่งจะถูกสั่งปิด 5 ปี
“ขอให้ภาครัฐ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพิ่มการตรวจสอบ กวดขัน ผับ บาร์ ในหัวเมืองใหญ่ๆ ที่เปิดบริการคล้าย ร้านคริสตัลด้วย ว่ามีการละเมิดกฎหมาย มีการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคหรือไม่ เพราะเป็นพื้นที่เสี่ยงสำคัญต่อการแพร่เชื้อฯ และพิจารณาหาแนวทางเพิ่มบทลงโทษสถานบริการที่ฝ่าฝืนกฎหมายหรือปล่อยปละละเลย จนทำให้เกิดแหล่งมั่วสุม เพิ่มความเสี่ยงต่อการระบาดโรคโควิด-19 สร้างผลกระทบต่อสังคมเป็นวงกว้าง ไม่ใช่เพียงแค่การเอาผิดผู้จัดการร้าน ซึ่งไม่ใช่การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ขอให้ตรวจสอบ กวดขันผับบาร์ในหัวเมืองใหญ่ๆด้วย” นายธีรภัทร์ กล่าว
ด้าน นายวิษณุ ศรีทะวงศ์ ผู้จัดการแผนนโยบายสาธารณะ สำนักงานเครือข่ายงดเหล้า กล่าวว่า ถึงเวลาที่รัฐจะต้องเอาจริงกับสถานบันเทิง เพราะตามธรรมชาติของสถานที่ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่โรคอยู่แล้ว จากการอยู่ใกล้ชิดกัน การใช้เสียงดัง และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยิ่งเสี่ยงมาก ยิ่งต้องเข้มงวดเรื่องมาตรการควบคุมโรค แต่กลับพบความหละหลวมในมาตรการควบคุมป้องกันโรค จนทำให้เกิดการแพร่ระบาดในวงกว้างทั่วประเทศ คนหาเช้ากินค่ำ พ่อค้า แม่ค้าต่างได้รับผลกระทบกันหมด ยังไม่รวมถึงปัญหายาเสพติด การสร้างคนเมาให้ลงไปบนท้องถนน เกิดอุบัติเหตุ เกิดความรุนแรงจำนวนมาก ดังนั้นผู้มีอำนาจควรคำนึงถึงประชาชนส่วนใหญ่ ขอได้โปรดทบทวนและมีคำสั่งปิดบริการไปจนกว่าสถานการณ์โควิดของประเทศจะคลี่คลายหรือเข้าสู่ภาวะปกติ เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก
No comments:
Post a Comment