🇹🇭🇹🇭ประเทศไทย
วันนี้มีผู้ติดเชื้อ 2,310 ราย
รวมผู้ติดเชื้อสะสม 187,538 ราย
-เป็นผู้ติดเชื้อจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯเพิ่มขึ้น 1,467 ราย
-เป็นผู้ติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 102 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น 38 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกวันนี้ 703 ราย (ยอดผู้ติดเชื้อสะสมจาก
การตรวจคัดกรองเชิงรุกอยู่ที่ 52,103 ราย)
เสียชีวิตรวม 1,375 ราย(วันนี้มีรายงาน
ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 43 ราย)
รักษาหายป่วยแล้ว 139,287 ราย
(มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 3,035 ราย)
รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 46,876 ราย
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศ (ไม่รวมเรือนจำ)
2,170 ราย มีรายละเอียดดังนี้
จากกรุงเทพฯ(788) ปริมณฑล (770) จังหวัดอื่น ๆ (612)
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เป็นผู้ที่เดินทาง
มาจากต่างประเทศ เพิ่มขึ้นในวันนี้ 38 ราย
และเข้า Quarantine โดยเข้ารับ
การรักษาที่สมุทรปราการ(1) และ สระแก้ว(37)
มีรายละเอียดดังนี้
- จากประเทศสหราชอาณาจักร 1 ราย
- จากประเทศกัมพูชา 37 ราย
🌐 สถานการณ์โลกในวันนี้
- ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก 175 ล้านราย มีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมกว่า 3.7 ล้านราย
(คิดเป็นร้อยละ 2.2 ของจำนวนผู้ติดเชื้อ)
ในขณะที่ผู้รักษาหายมีจำนวน 158.6 ล้านราย (คิดเป็นร้อยละ 90.6)
- สหรัฐอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ 14,201 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 1 ของโลก อยู่ที่ 613,494 ราย
- อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 29 ล้านรายแล้ว โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 93,896 ราย ทั้งนี้ยอดผู้รักษาหายในอินเดียอยู่ที่ 27.6 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 94.7
- ไทยมียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่อันดับ 80 และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 94 ของโลก
🌐 สถานการณ์อาเซียนในวันนี้
- เมียนมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 144,715 ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยในรอบ 7 วันที่ผ่านมาอยู่ที่ 127 ราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 3,233 ราย
- มาเลเซีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 633,891 ราย โดยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่
อยู่ที่ 6,239 ราย
- กัมพูชา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 36,240 ราย
มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 289 ราย
- ลาว ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 1,971 ราย
โดยกำลังรักษาอยู่ 173 ราย
- เวียดนาม ผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 407 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสม 55 ราย
ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค
และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรม
การแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม
No comments:
Post a Comment