ผศ.ดร.พีระศักดิ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนและทีมวิจัย ได้พัฒนาเทคนิคการยืดอายุมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองด้วยตู้คอนเทนเนอร์ควบคุมสภาพบรรยากาศ (Controlled Atmosphere Storage) ควบคุมปริมาณออกซิเจน และคาร์บอนไดออกไซด์ตลอดระยะเวลาการเก็บรักษา สามารถเก็บรักษาคุณภาพผลผลิตในระหว่างการขนส่งได้ 15 วัน และมีอายุการเก็บรักษาเป็นเวลา 6 วัน ด้วยตู้คอนเทนเนอร์ควบคุมสภาพบรรยากาศ ที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส และการเก็บรักษามะม่วงน้ำดอกไม้สีทองในสภาพดัดแปลงบรรยากาศ MAP (Modified atmosphere packaging) โดยการบรรจุถุงพลาสติก WEB (White ethylene absorbing bag) และเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 13 องศาเซลเซียส สามารถยืดอายุการเก็บรักษามะม่วงน้ำดอกไม้สีทองได้เป็นระยะเวลา 33 วัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมที่สามารถเก็บรักษามะม่วงได้เพียง 15 วัน การขนส่งมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองผลสดด้วยตู้คอนเทนเนอร์ควบคุมสภาพบรรยากาศ สามารถนำมาใช้แทนการขนส่งทางเรือได้ และ ผลผลิตมีคุณภาพดีเมื่อไปถึงประเทศปลายทาง พร้อมทั้งต้นทุนการขนส่งที่ลดลง ซึ่งมีขั้นตอนที่สะดวกและเหมาะสมกับสภาพปัญหาแรงงานที่หายากและมีราคาแพงในประเทศปลายทาง
“ดังนั้น เพื่อให้มีผลมะม่วงได้มาตรฐานจึงต้องดำเนินการแบบครบวงจรจากต้นทางคือ ส่งเสริมกระบวนการเพาะปลูกที่ได้มาตรฐานให้แก่เกษตร ซึ่งเป็นโครงการที่ศูนย์วิจัยเพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการด้านเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องในการจัดการความรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองเพื่อการส่งออกให้แก่เกษตรกรในจังหวัดพิษณุโลก ปัจจุบันตลาดในต่างประเทศ เช่น รัสเซีย ดูไบ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ มีความต้องการสูงมาก จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ส่งออกของไทย” ผศ.ดร.พีระศักดิ์ กล่าว
No comments:
Post a Comment