วันนี้ 13 กันยายน 2564 เวลา 11.00 น. ท่านเจ้าคุณพระเทพกิตติเวที เจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตร เจ้าคณะภาค 17 ประธานฝ่ายสงฆ์พร้อมด้วยพระครูปลัดอุดมวัฒน์ ผู้อำนวยการเบญจมบพิตรธรรมสถาน และนายเอกพจน์ ปานแย้ม นายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองคลองหลวง ร่วมเปิดโรงพยาบาลสนามเทศบาลเมืองคลองหลวง ระดับสีเหลือง ณ สถานปฏิบัติธรรมเบญจมบพิตรธรรมสถาน ตำบลคลองสอง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี โดยมีเจ้าหน้าที่จากหลายภาคส่วนทั้งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเทศบาลเมืองคลองหลวง กระทรวงสาธารณสุข สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายรักษาความปลอดภัยเข้าร่วม ระบุผวจ. ตั้งเป้าให้เป็นศูนย์กลางโรงพยาบาลสนามระดับสีเหลืองภาครัฐ ของจ.ปทุมธานี
ท่านเจ้าคุณพระเทพกิตติเวที เจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร กล่าวว่า โรงพยาบาลสนามเทศบาลเมืองคลองหลวง ระดับสีเหลือง จัดตั้งในพื้นที่ธรณีสงฆ์ ซึ่งเป็นของบรรพบุรุษผู้ใจบุญบริจาคให้กับทางวัดเบญจมบพิตร มีพื้นที่ 100 ไร่ ปัจจุบันบริหารดูแลโดยคณะผู้บริหารของวัด ซึ่งพระมหาเถระในวัดมองว่า พื้นที่ตรงนี้เป็นที่ธรณีสงฆ์จะทำประโยชน์ให้แก่สังคมอย่างไรบ้าง ทางเจ้าอาวาสพิจารณาแล้วเห็นว่า น่าจะมีการทำประโยชน์เพื่อคนส่วนมาก ประจวบกับเหตุการณ์ปัจจุบันมีความต้องการจากทางเทศบาลเมืองคลองหลวง อ.คลองสอง โดยนายกเทศมนตรีได้ติดต่อขออนุญาตไปทางวัดเบญจมพิตร คณะผู้บริหารของวัดเห็นชอบด้วยอนุญาตให้ทำเป็นโรงพยาบาล อาตมาอนุเคราะห์อนุญาตให้ทำประโยชน์เป็นโรงพยาบาลได้ ซึ่งมาเห็นวันนี้พบว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน โดยเฉพาะในช่วงภาวะวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคโควิดในพื้นที่ และมีหลายภาคส่วนร่วมมือกันทั้ง ฝ่ายรัฐบาล กระทรวงสาธารณสุข ท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายรักษาความปลอดภัย
ด้านนายเอกพจน์ ปานแย้ม นายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองคลองหลวง จ.ปทุมธานีกล่าวว่า การจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเทศบาลเมืองคลองหลวง ระดับสีเหลือง มีเป้าหมายเพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด19 ระดับสีเหลืองถึงเหลืองส้ม สำหรับผู้ป่วยระดับสีเขียว ในอ.คลองหลวงมีโรงพยาบาลสนามรองรับอยู่ที่อาคารอเนกประสงค์ โดม ส.สโมสรเอนกประสงค์ อนุกูลธัญกิจ ของวัดแสงสรรค์ ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เปิดมาตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม 2564 มี 208 เตียง โดยการบูรณาการร่วมกันตามมติคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดและผู้ว่าราชการจังหวัดมอบหมายให้เทศบาลเมืองคลองหลวงมีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในระดับพื้นที่และได้ร่วมกับ โรงพยาบาลการุญเวช ปทุมธานีและอีกหลายส่วน โดยเจ้าอาวาสวัดแสงสรรค์ อนุเคราะห์ให้ใช้พื้นที่ ที่ผ่านมารักษาผู้ป่วยเข้ารับการรักษาและหายป่วยกลับบ้านแล้วระหว่าง 500-600 คน
สำหรับการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเทศบาลเมืองคลองหลวง ระดับสีเหลือง ขนาด 180 เตียง สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของโรคโควิด-19 และมีการกลายพันธุ์ของเชื้อ มีการติดเชื้อเร็วมากในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคม การดำเนินการรองรับผู้ป่วยของโรงพยาบาลของรัฐและเอกชนไม่สามารถรองรับได้เพียงพอ อีกทั้งพบผู้ป่วยเกินระดับสีเขียวเพิ่มขึ้นจำนวนมาก จึงอยากจะช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดยอยากจะทำเรื่องของการป้องกันและดูแลรักษาพี่น้องประชาชนอย่างครบวงจรทั้งระบบ
เริ่มตั้งแต่การคัดกรองเชิงรุกลงไปในพื้นที่ชุมชนและที่โรงสนามแห่งนี้ด้วยชุดตรวจ ATK ถ้าผลเป็น บวก จะทำการตรวจซ้ำและมีโรงพยาบาลรองรับและมีศูนย์พักคอย (Community Isolation) จำนวน 60 เตียงรองรับระหว่างรอผล RT-PCR ถ้ามีอาการไม่รุนแรง เรามีโรงพยาบาลรองรับระดับสีเขียวอยู่ที่วัดแสงสรรค์ ถ้ามีอาการเริ่มจะรุนแรงแล้วให้อยู่ที่โรงพยาบาลสนามระดับสีเหลืองแห่งนี้ เพื่อแบ่งเบาภาระของโรงพยาบาลต่าง ๆ โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัด นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ต้องการให้เป็นศูนย์กลาง โรงพยาบาลสนามระดับสีเหลืองของรัฐ ของจ.ปทุมธานี
“คาดว่า การระบาดของโควิด-19 เป็นสถานการณ์ที่เราไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ แต่เราต้องเตรียมตัวให้พร้อม เราต้องการให้ครบวงจรในการดูแลประชาชนในเขตเทศบาลหรือนอกพื้นที่ก็สามารถที่จะมารักษาได้ จากการบูรณาการร่วมกันจากหลายภาคส่วนตามมติของคณะกรรมการกรมควบคุมโรคจังหวัดเริ่มตั้งแต่ 11 กรกฎาคม 2564 และการมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดและมติเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2564 ที่ให้ทางเทศบาลเมืองคลองหลวงดำเนินการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม”
ภายในโรงพยาบาลสนามระดับสีเหลืองมีการติดตั้งระบบห้องแรงดันลบที่มีการบำบัดอากาศโดยการฟอกและฆ่าเชื้อในอากาศด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยี่ม่านไฟฟ้าที่มีความต่างศักย์สูงทำให้อากาศปลอดภัย100 เปอร์เซนต์ และห้องของบุคลากรทางการแพทย์ที่ไว้เฝ้าสังเกตการณ์คนไข้ก็เป็นห้องระบบแรงดันบวก พร้อมด้วยห้องเอ็กซเรย์ปอด 2 ห้อง ห้องพักแพทย์และพยาบาล
ทั้งนี้โรงพยาบาลสนามระดับสีเหลืองของจ.ปทุมธานีแห่งนี้ จะสามารถเปิดให้บริการในวันที่15 กันยายน 2564 เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน พนักงาน และภาคธุรกิจ ในการมีสถานที่สำหรับรองรับการดูแลผู้ป่วยโควิดในอนาคต
No comments:
Post a Comment