กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จัดการแสดง "ดนตรีไหว้สาบูรพาจารย์" ณ วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
โดยมี ศาสตราจารย์พิเศษ ดร. เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานในพิธีเปิดการแสดงฯ การแสดงศิลปะดนตรีโครงการขยายผลต่อยอดนวัตกรรมเพลงพื้นบ้านเพื่อเผยแพร่ให้เป็นมรดกของชาติ ซึ่งเป็นงานวิจัยที่ได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ โดยนำเพลงพื้นบ้าน รวมทั้งเพลงโบราณของภาคต่าง ๆ มาแสดงออกในรูปแบบของ วงซิมโฟนีออร์เคสตร้า เป็นการอนุรักษ์ และต่อยอด รวมทั้งพัฒนาด้วยดนตรีพื้นบ้านอันเป็นสมบัติที่ล้ำค่าของคนไทย ขณะเดียวกัน การแสดงออกด้วยท่วงทำนองแบบ วงซิมโฟนี ต่อไปก็จะเป็นที่ยอมรับได้ของคนทั่วโลก เพราะคนทั่วโลกคุ้นเคยกับดนตรีแบบซิมโฟนีมากกว่าแบบไทยเดิม
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. ได้สนับสนุนทุนวิจัยให้ “มูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข” ซึ่งดำเนินการโดย รองศาสตราจารย์.ดร.สุกรี เจริญสุข ในการวิจัยเพื่ออนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม โดยการค้นหาเพลงเก่าของชุมชนในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อนำมาเรียบเรียงใหม่ พร้อมเล่นผ่านวงดนตรีซิมโฟนีออร์เคสตร้า เพื่อรักษาเพลงเก่า นำมาเสนอในรูปแบบใหม่ เป็นการกระตุ้นให้เกิดการเสริมสร้างสิ่งใหม่บนรากฐานสิ่งเก่า เพื่อรักษาเสถียรภาพและอัตลักษณ์ของสังคมไทยให้สืบทอดและคงอยู่ต่อไป โดยก่อนหน้านี้ได้มีการแสดงบรรเลงเพลงพื้นบ้านภาคกลางที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา การแสดงบรรเลงเพลงพื้นบ้านภาคใต้ที่จังหวัดกระบี่ การแสดงบรรเลงเพลงพื้นบ้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดบุรีรัมย์ และการแสดงพื้นบ้านภาคเหนือที่จังหวัดลำปาง
การแสดง "ดนตรีไหว้สาบูรพาจารย์" เป็นการเล่าเรื่องประวัติศาสตร์จังหวัดเชียงใหม่ และการบูชาอาจารย์ ผ่านบรรเลงดนตรีโดยวงไทยซิมโฟนีออร์เคสตร้า โดยเริ่มจากเพลงกุหลาบเชียงใหม่ เพลงลาวดวงดอกไม้ เพลงลาวจ้อย เพลงคางคกปากสระ และลาวเจริญศรี อำนวยความสะดวกโดย รองศาสตราจารย์ ดร.สุกรี เจริญสุข ควบคุมวงโดย พันเอก ดร.ประทีป สุพรรณโรจน์ ระหว่างการบรรเลงเพลง ดร.สุชาติ วงษ์ทอง ได้สร้างสรรค์ภาพจิตรกรรมประกอบบทเพลง การแสดงดนตรีฯ จัดให้เข้าชมในจำนวนที่นั่งตามข้อกำหนดการป้องกันโควิด-19 และการแสดงครั้งนี้ใช้วิธีถ่ายทำโดยบันทึกภาพและเสียงเพื่อเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์และสื่อโทรทัศน์
No comments:
Post a Comment