เพิ่มขึ้นจากวานก่อน 37 จุด โดยพบมากสุดในพื้นที่เขตสปก. จำนวน 21 จุด พื้นที่เกษตร จำนวน 12 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 7 จุด พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 6 จุด และพื้นที่ชุมชนและอื่นๆ จำนวน 5 จุด ส่วนจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากสุด คือ #ขอนแก่น 6 จุด #อุดรธานี 4 จุด #สระแก้ว 4 จุด ตามลำดับ โดยเช้าวันนี้คุณภาพอากาศปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 โดยรวมยังคงอยู่ในระดับดี มีฝุ่นบ้างเล็กน้อยในบางพื้นที่ จากภาพแสดงให้เห็นว่าจุดความร้อนกลับมาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลาง คาดว่าน่าจะเกิดจากการเตรียมพื้นที่เพื่อการเกษตร
.
สำหรับจุดความร้อนของประเทศเพื่อนบ้าน พบมากสุดที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ จำนวน 462 จุด รองลงมาอันดับ 2 เป็นราชอาณาจักรกัมพูชา จำนวน 436 จุด และอันดับที่ 3 เป็นสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม 107 จุดตามลำดับ ข้อมูลจุดความร้อนที่เกิดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้านบ้านอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศ pm 2.5 ในพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณแนวชายแดน และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เหล่านี้ดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ
.
ทั้งนี้ ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงให้กับระบบต่างๆ ของประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THOES-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 1 ในภารกิจสำคัญของระบบนี้ คือการสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้น ได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำ เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น
.
อย่างไรก็ตาม รายละเอียดข้อมูลเฉพาะพื้นที่ท่านสามารถติดตามจากหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรงได้ GISTDA ยังคงติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่ ท่านสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://fire.gistda.or.th
#จิสด้า #gistda #จิสด้าก้าวสู่ปีที่22 #ไฟป่า #หมอกควัน #คุณภาพชีวิต #วิเคราะห์ข้อมูล #มลพิษทางอากาศ
#จุดความร้อน #คุณภาพอากาศ #ค่าฝุ่นละออง #ฝุ่นพิษวิกฤติชาติ #รู้สู้ภัยพิบัติ
No comments:
Post a Comment