วันที่ 10 มกราคม 2565 ที่อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ภายใต้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นำโดย ดร.จันทรวิภา ธนะโสภณ ผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักประสานงานชุดโครงการการพัฒนาผลิตภัณฑ์ Innovative House ลงพื้นที่ สนับสนุนผลงานวิจัยของ มหาวิทยาลัยนเรศวร ผลักดันผลงานวิจัย ภายใต้โครงการการสนับสนุนการวิจัยเพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลางในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและอุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวข้อง (ระยะที่ ๓) โดยความร่วมมือของ วช. , สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) รวมทั้งผู้ประกอบการ SMEs บริษัท อุตสาหกรรมการเกษตรเขาค้อ จำกัด ร่วมสนับสนุนทุนวิจัย เพื่อพัฒนาองค์ความรู้จากงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ในระดับอุตสาหกรรม เกิดเป็นผลิตภัณฑ์น้ำเสาวรสเสริมพรีไบโอติกสำหรับผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ตื่นตัวใส่ใจสุขภาพ โดยมีคุณประโยชน์ และรสชาติที่ดีกว่าผลิตภัณฑ์เดิม ๆ ในท้องตลาด
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มีพันธกิจสำคัญในการให้ทุนวิจัยและนวัตกรรมหลักของประเทศ และมีเป้าหมายในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดย“งานวิจัยและนวัตกรรม”จะเป็นตัวขับเคลื่อนให้ผลิตภัณฑ์จากผู้ประกอบการให้เกิดประโยชน์สูงสุด วช.จึงได้ร่วมกับ สวทช. , สกสว. และ SMEs ในพื้นที่ ภายใต้โครงการการสนับสนุนการวิจัยเพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลางในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและอุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวข้อง นับเป็นโอกาสอันดีที่จะได้นำเอาผลสำเร็จของงานวิจัยและนวัตกรรม ที่วช.มีอยู่ ไปส่งเสริม เพิ่มความรู้ความสามารถให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะเรื่องการต่อยอดผลิตภัณฑ์จากผลิตผลทางการเกษตร ให้ปลอดภัยต่อการบริโภค ได้คุณภาพและมาตรฐานยิ่งขึ้น อันส่งผลต่อการสร้างงานและรายได้ให้กับคนในชุมชนต่อไป ขณะที่ ดร.จันทรวิภา ธนะโสภณ ผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักประสานงานชุดโครงการการพัฒนาผลิตภัณฑ์ Innovative House วช. กล่าวว่า วช.รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่งานวิจัยภายใต้ความร่วมมือของ 3 หน่วยงานภาคประชาคมวิจัย และมหาวิทยาลัยวิจัย คือ มหาวิทยาลัยนเรศวร สามารถส่งเสริมให้อุตสาหกรรมการเกษตรในพื้นที่เขาค้อได้รับการยกระดับด้วยวิจัยและนวัตกรรม อันส่งผลพวงที่ดีต่อเกษตรกรและประชาชนผู้บริโภค การลงพื้นที่ในครั้งนี้ จึงนับเป็นโอกาสอันดีที่จะได้เผยแพร่ผลงานดังกล่าวสู่สาธารณชนในวงกว้าง
No comments:
Post a Comment