ชูนวัตกรรม “ศาสตร์แห่งข้าวเพื่อชีวิตที่ดีกว่า” ลุยตลาดแป้งปี 65 ชิงส่วนแบ่งพันล้าน
นางสาว สถาพร ไพศาลบูรพา กรรมการผู้จัดการ บริษัท บูรพา พรอสเพอร์ จำกัด เผยว่า การดำเนินธุรกิจของแบรนด์ “หมีคู่ดาว” มีปรัชญาในการดำเนินบริษัทคือนำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต จึงเป็นเวลากว่า 40 ปีแล้ว ที่แบรนด์จัดจำหน่ายแป้งข้าวโม่น้ำโดยคำนึงถึงผู้บริโภคเป็นหลัก ทุก ๆ ผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นเกิดจากความต้องการแก้ Pain Point ให้ลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย โดยปัจจุบันสินค้าแป้งส่วนใหญ่ใช้ในการทำอาหารและขนมเพื่อการค้า จึงต้องใช้ง่าย ทำให้อาหารและขนมอร่อยได้นาน คุณภาพสม่ำเสมอทุกฤดูกาล บรรจุภัณฑ์ต้องสะอาด มีมาตรฐานรับรอง รวมถึงช่องทางจัดจำหน่ายต่าง ๆ ต้องมีการพัฒนาให้สินค้าเข้าถึงได้ง่าย เพื่อทำให้แบรนด์เป็นตัวเลือกแรกในใจลูกค้าไม่เปลี่ยนแปลง
“แบรนด์หมีคู่ดาวเป็นอีกธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด แต่เราวางแผนอย่างรอบคอบมายาวนานด้วยการขยายฐานลูกค้าไปกว่า 30 ประเทศทั่วโลก อีกทั้งไม่ทิ้งการลงทุนเพื่อยกระดับสินค้าให้ตอบโจทย์ผู้บริโภค บริษัทยังคงเดินหน้าขยายทีมวิจัยและพัฒนาและตั้งทีมวิจัยผู้บริโภคและทิศทางตลาด จากเดิมที่เรามุ่งเน้นจำหน่ายแป้งพื้นฐานเป็นหลัก ก็ได้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากแนวคิด Rice Science for Life Science ‘ศาสตร์แห่งข้าวเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า’ ประยุกต์ใช้องค์ความรู้และข้อมูลวิทยาศาสตร์ ผสานกับประสบการณ์กว่า 40 ปีที่ศึกษาข้าวหลากสายพันธุ์ของทวีปเอเชีย นำมาต่อยอดเป็นนวัตกรรมแป้ง สร้างผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ชีวิตลูกค้าง่ายและดียิ่งขึ้น เช่น แป้งทอดกรอบที่ผสมแป้งข้าวอะไมโลสสูง ช่วยลดการอมน้ำมันทำให้อาหารกรอบนานถึง 4 ชม. ที่เหมาะกับร้านอาหารยุค Food Delivery แป้งข้าวเหนียวที่คงความนุ่มเหนียวได้นาน ไม่ยุ่ย แม้จะแช่ในน้ำกะทิ หรือแป้งผสมสำเร็จที่ลดขั้นตอนและเวลาเตรียมอาหารลงเช่น กลุ่มแป้งผสมสำเร็จรูป Thai Street Food ที่แค่ฉีกซองผสมน้ำก็ทำอาหารและขนมได้อร่อย รสชาติคงที่ทุกเสริฟ ซึ่งบริษัทต้องการขยายการจำหน่ายสินค้าคุณภาพเหล่านี้ให้ทุกคนเข้าถึงง่ายยิ่งขึ้น จึงได้จับมือกับ สหพัฒน์ เพื่อขยายตลาดแป้งหมีคู่ดาวให้เข้าสู่ทุกภูมิภาคในประเทศ”
นายเวทิต โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมความร่วมมือในครั้งนี้ว่า ทางสหพัฒน์ ให้ความสำคัญกับความร่วมมือครั้งนี้เป็นอย่างมาก ได้มีการส่งทีมบริหารและทีมขายสนับสนุนการกระจายสินค้าเต็มกำลัง และเก็บข้อมูลการทดลองจำหน่ายสินค้า ซึ่งได้ผลตอบรับจากร้านค้าพันธมิตรเป็นที่น่าพอใจ
“ก่อนหน้านี้ร่วม 6 เดือน ทางสหพัฒน์ ได้มีการส่งทีมบริหารระดับสูงเยี่ยมชมกระบวนการผลิตสินค้าหมีคู่ดาวด้วยตนเอง เราได้เห็นถึงกระบวนการผลิตที่ทันสมัย อัดเต็มด้วยคุณภาพและมาตรฐาน ทั้งยังมีทีมวิจัยและพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เรามั่นใจในคุณภาพสินค้าหมีคู่ดาว ทั้งนี้ เรายังมีการนำสินค้าหมีคู่ดาววางจำหน่ายในร้านค้าใน เครือข่ายของสหพัฒน์ ที่คลอบคลุมทั่วประเทศ ทีมบริหารทั้งของสหพัฒน์และหมีคู่ดาวยังได้ลงพื้นที่จริงเพื่อเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ทำให้เรายิ่งมั่นใจในการขยายช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์แป้งหมีคู่ดาว กระจายสินค้าไปสู่กลุ่มค้าส่ง ค้าปลีก และช่องทาง General Trade ในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย”
นางสาวสถาพร กล่าวต่อว่า นอกการจับมือกับ สหพัฒน์ ปีนี้ บริษัทยังเพิ่มช่องทางจำหน่ายโมเดิร์นเทรด ผ่าน Makro เพราะเป็นช่องทางที่มีส่วนอย่างมากในการผลักดันช่องทางจำหน่ายสินค้าให้ครอบคลุมไปถึงกลุ่มธุรกิจ HORECA (โรงแรม, ร้านอาหาร, จัดเลี้ยง) อีกด้วย เพื่อตอบสนองความต้องการซื้อของลูกค้าทุกกลุ่มอย่างแท้จริง รวมถึงการสนับสนุนการทำตลาดด้วยทีม Local Trade Marketing การดำเนินกลยุทธ์การสื่อสารทั้งส่วนของออฟไลน์และออนไลน์ ซึ่งแผนงานทั้งหมดนี้จะสามารถสร้างยอดขายให้แบรนด์หมีคู่ดาวได้ในปี 2565 ได้ตามเป้าหมายยอดขายวางไว้
ในส่วนผู้ประกอบการและอุตสาหกรรมด้านอาหารในประเทศที่กำลังเติบโตต่อเนื่อง บริษัทฯยังใช้แนวคิดพัฒนาสินค้า Rice Science for Life Science ส่งต่อผ่านตัวผลิตภัณฑ์หมีคู่ดาว เพื่อได้เป็นเพื่อนคู่คิดของร้านอาหารด้าน Flour Solution เช่นสินค้า Boba Pearls (ไข่มุกสำหรับเครื่องดื่มชานม) ที่จะวางจำหน่ายในเดือนเมษายนปีนี้ เป็นเม็ดแป้งไข่มุกที่เพิ่มส่วนผสมบุก สามารถคงความหนึบหลังต้มได้นานถึง 8 ชั่วโมง จึงช่วยเพิ่มทั้งคุณค่าของเครื่องดื่มให้ผู้บริโภค และลดต้นทุนให้กับร้านชานมได้เป็นอย่างมาก
ปัจจุบันแนวคิด Rice Science for Life Science ของแบรนด์หมีคู่ดาว สอดแทรกอยู่ในทุกไลน์สินค้าของบริษัท ทั้งผลิตภัณฑ์แป้งพื้นฐานได้แก่ แป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว แป้งมัน สาคู ที่แป้งหมีคู่ดาวมีความขาวเป็นพิเศษปรุงสุกเป็นอาหารสีจึงน่าทานกว่า มาจากการใช้เทคโนโลยีชั้นสูงคัดสีเมล็ดข้าวขาวทุกเม็ดก่อนมาทำแป้ง จึงไม่ต้องใช้สารฟอกขาว เม็ดสาคูที่ดูดน้ำได้ดี ทำขนมได้มากชิ้นกว่าจากปริมาณสาคูเท่าเดิม และต้มสุกได้ง่าย ช่วยประหยัดค่าแก๊สหุงต้ม รวมไปถึงสินค้าแป้งข้าวสำหรับเบเกอรี่กลูเตนฟรี ที่ดึงศักยภาพของข้าวหอมมะลิของไทยซึ่งปราศจากกลูเตนที่เป็นสารก่อภูมิแพ้ มาทดแทนแป้งสาลีในการทำเบเกอรี่ จะเห็นได้ว่าเราตั้งใจให้สินค้าทุกชนิดส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้ทั้งผู้ใช้และผู้บริโภค สอดคล้องกับแนวทางการสร้างธุรกิจอย่างยั่งยืนของหมีคู่ดาว
“ช่วง 2 ปีภายใต้สถานการณ์โควิด บูรพา พรอสเพอร์ ยังคงเดินหน้าพัฒนางานเสริมความแข็งแกร่งต่อเนื่องในทุก ๆ ด้าน เริ่มตั้งแต่การยกระดับคุณภาพของสินค้าโดยใช้วิทยาศาสตร์ของข้าว การนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ในกระบวนการผลิต รวมถึงการจับมือกับเครือธุรกิจค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ทำให้เรามั่นใจว่าบริษัทและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จะเติบโตพร้อมกันอย่างต่อเนื่องในปี 65 นี้ และมุ่งสู่เป้าหมายสร้างยอดขาย 1,000 ล้านบาทจากส่วนแบ่งในประเทศ 55% รวมถึงส่งออก 45% จากทั้งหมด 30 ประเทศทั่วโลกที่เราดูแล” นางสาวสถาพร ทิ้งท้าย
“บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ของเราเป็นบริษัทก่อตั้งมากว่า 80 ปี เราจำเป็นต้องรักษามาตรฐานสินค้าเพื่อผู้บริโภค และเราเชื่อแป้งหมีคู่ดาว เป็นสินค้าที่ดีมีมาตรฐาน และจะเป็นสินค้าคุณภาพเพื่อผู้บริโภคอย่างแน่นอน เพราะของดีถ้าคนได้ลองแล้ว ต้องใช้อย่างต่อเนื่อง” นายเวทิต โชควัฒนา กล่าวทิ้งท้าย
ติดตามความเคลื่อนไหวและสอบถามข้อมูลของแป้งข้าว “หมีคู่ดาว”
เพิ่มเติมได้ที่ burapaprosper.com หรือ FB: DoubleBearBrand
LINE: lin.ee/cV6wnbq หรือโทร. 038 391 503
No comments:
Post a Comment