นายวิศิษฐ์ วิระยากรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเอสเอส คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) หรือ ISS Consulting (Thailand) Ltd. เปิดเผยว่า บริษัท เป็นผู้ให้บริการระบบ SAP ครบวงจร โดยมีประสบการณ์ด้านการ Implement SAP ระดับ Premium ยาวนานกว่า 23 ปี และเป็นบริษัทฯที่ให้คำปรึกษา และให้บริการการจัดการทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศอันดับต้น ๆ ของประเทศไทยและเอเชีย โดยให้บริการเป็นที่ปรึกษาการติดตั้งระบบ SAP ครบวงจร ในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 1999 เป็นต้นมา และเพื่อยกระดับศักยภาพองค์กรก้าวสู่มาตรฐานสากล ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 บริษัท ISS Consulting (Thailand) Ltd. จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น NTT DATA Business Solutions (Thailand) Ltd. เพื่อตอกย้ำความเป็นบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลก
การเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ NTT Data จะช่วยเสริมความเข้มแข็ง และเพิ่มทางเลือกให้แก่ธุรกิจในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และได้มีโอกาสเลือกใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ อาทิ ระบบเครือข่ายคลาวด์ ไฮบริดคลาวด์ บริการศูนย์ข้อมูล (Data Center) การเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล (Digital Transformation) การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า ระบบการทำงาน และระบบรักษาความปลอดภัย (Cyber security) และเป็นสมาชิก SAP Global Partner ที่เพียบพร้อมด้วยความเชี่ยวชาญของพนักงานกว่า 12,000 คน ของ NTT DATA Business Solutions ซึ่งครอบคลุม 57 ประเทศในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก และทำให้ ISS Consulting ก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการระดับโลก (Global Brand) ภายใต้แบรนด์ NTT DATA ที่พร้อมให้บริการอย่างหลากหลาย ตอบโจทย์และเหมาะสม จำเป็นกับธุรกิจต่าง ๆ ให้สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว
แม้ว่าปัจจุบัน ไอเอสเอส คอนซัลติ้ง จะมีความเชี่ยวชาญในการให้บริการโซลูชันของ SAP ได้แล้วอย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นระบบ ERP สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก/กลาง/ใหญ่, ระบบ CRM สำหรับบริหารจัดการงานด้านการขาย/การตลาด/การสนับสนุนหลังการขาย, ระบบ HRM สำหรับบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลแบบครบวงจร, ระบบ Procurement สำหรับแผนกจัดซื้อเพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจสั่งซื้อสินค้าหรือวัตถุดิบ, ระบบ Expense Management บริหารจัดการค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางและอื่นๆ ในธุรกิจ ไปจนถึงระบบ RPA สำหรับสร้าง Bot ขึ้นมาช่วยทำงานต่างๆ แบบอัตโนมัติในการจัดการข้อมูลระหว่าง Application
นายวิศิษฐ์ กล่าวต่อไปอีกว่า บริษัทฯ มีการให้บริการทางด้านเทคโนโลยีของ SAP ให้แก่ธุรกิจในอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากกว่า 300 โครงการ ด้วยเทคโนโลยีชั้นนำที่หลากหลาย และตอบโจทย์การใช้งานของทุกอุตสาหกรรม ครอบคลุมทั้ง SAP S/4HANA, , SAP Business ByDesign, SAP Business One, SAP Customer Experience : C/4HANA, Employee Experience : SAP SuccessFactors, ARIBA, SAP Concur, iRPA, SAP Analytics Cloud, Data Warehouse, SAP Cloud Platform, SAP IBP,SAP EWM, SAP Transportation Management, SAP BPC, SAP Model Company, E-Tax Invoice & E-Receipt
สำหรับการดำเนินธุรกิจหลังจาก ไอเอสเอสคอนซัลติ้ง เป็น NTT DATA Business Solutions ประเทศไทย ยังคงดำเนินธุรกิจในไทยได้เหมือนเช่นเดิม และมีขีดความสามารถที่เพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนของโซลูชัน และมาตรฐานที่เป็นสากลมากขึ้น ด้วยการรวมขีดความสามารถทั้งหมดที่มีในเครือ NTT DATA ซึ่งจะส่งผลทำให้เกิดโอกาสในการขยายบริการไปสู่ตลาดใหม่ ๆ และยังเป็นการเสริมความแข็งแกร่งของเรา และส่งผลให้เราเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างน้อย ๆ 30% จากเดิมที่เราเติบโต 20% ในทุก ๆ ปี ซึ่งจะมาจากโครงการที่มาจากต่างประเทศที่ต้องการมาทำธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งหากนับรวมกลุ่มประเทศ CLMV แล้ว เชื่อว่าอัตราการเติบโตจะมีมากขึ้นอย่างแน่นอน เพราะอย่างไรก็ดีประเทศไทยยังคงเป็นประเทศที่เป็นจุดศูนย์กลางในกลุ่มประเทศ CLMV
“แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจที่ผ่านมาจะส่งผลให้การลงทุนทางเทคโนโลยีเกิดการชะลอตัว แต่เรามองว่าสถานการณ์ดังกล่าวได้มาถึงจุดที่ธุรกิจในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ต้องดิ้นรนเปลี่ยนแปลง โดยมองหาเทคโนโลยี และโซลูชันใหม่ ๆ ที่จะสามารถตอบโจทย์การดำเนินธุรกิจ และผลักดันให้ธุรกิจสามารถฟื้นตัว และเติบโตต่อไปได้ ด้วยความที่เรารีแบรนด์ดิ้ง (Rebranding) ISS Consulting เป็น NTT DATA Business Solutions Thailand ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าเราเป็นองค์กรระดับโลกที่พร้อมจะส่งมอบบริการที่มีประสิทธิภาพตั้งแต่ “ต้นน้ำถึงปลายน้ำ“ ได้ครอบคลุมทุกส่วนที่ธุรกิจต้องการ และมีทางเลือกในการใช้บริการโซลูชันต่าง ๆ ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณง่ายมากยิ่งขึ้น” นายวิศิษฐ์ กล่าว
ทางด้าน MR. Sharath Burla (นายเบอร์ลา ชาราธ กุมาร์) EVP & Head of APAC NTT DATA Business Solutions กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตอย่างสูง ซึ่งเป็นศูนย์กลางในด้านอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งซอฟแวร์ของบริษัทที่ให้บริการ จะสามารถมาซัพพอร์ตตลาดที่กำลังเติบโตได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มของบริษัทมีให้บริการอยู่ทุกภูมิภาคทั่วโลก และสามารถเชื่อมโยงได้ทุกส่วนในการทำธุรกิจใหม่ ๆ และในช่วงโควิด 19 ตลาดออนไลน์มีอัตราการเติบโตอย่างสูงมาก โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจที่ใช้ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งมากขึ้น
“ในช่วงโควิด ถือได้ว่าเป็นช่วงปีทองของบริษัทที่ได้มีส่วนช่วยบริษัทที่กำลังจะเปิดตัว และบริษัทที่กำลังเติบโต ด้วยการใช้โซลูชันใหม่ ๆ ในการดำเนินธุรกิจให้ไปต่อได้ในรูปแบบออนไลน์ให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้น จึงทำให้ NTT DATA มีอัตราการเติบโตใน 2 ปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 18-20% โดยเฉพาะในกลุ่ม APAC เติบโตกว่า 28% หรือมีรายได้ประมาณ 23,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และถ้าพูดถึงอัตราการเติบโตของธุรกิจไอทียังเติบโตสูงอยู่ โดย NTT DATA จะเติบโตมากกว่าตลาด 2-3 เท่า”
“จากอัตราการเติบโตของตลาดไอทีของโลก ประเทศจีนยังคงเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด รองลงมาคือ Southeast Asia โดยประเทศไทยก็อยู่ในกลุ่มนี้ จึงถือเป็นปัจจัยบวกให้กับกลุ่มธุรกิจของ NTT DATA ด้วย โดยเฉพาะตลาดในเมืองไทยที่มีอัตราการเติบโตสูง เราจึงจับมือกับ ไอเอสเอสคอนซัลติ้ง ซึ่งเป็น Best Partner Of The Year 5 ปีซ้อน แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำตลาดของไทยที่สูงมาก และจะทำให้ NTT DATA ของไทยกลายพาร์ทเนอร์เป็น 1 ใน 5 ของโลกที่จะสามารถนำโซลูชันต่าง ๆ ของตลาดโลกมาใช้กับประเทศไทยได้อย่างง่ายขึ้น” MR. Sharath Burla กล่าวปิดท้าย
No comments:
Post a Comment