โดยรูปแบบกิจกรรมเป็นการจัดประกวดคลิปโดยใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในการถ่ายทํา และตัดต่อคลิปวีดีโอ เปิดโอกาสให้กลุ่มเป้าหมาย เด็ก และเยาวชน (อายุไม่เกิน 25 ปี) จาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ เข้าประกวดชิงเงินรางวัลรวม 380,000 บาท พร้อมโล่รางวัล จากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัย และสร้างสรรค์ โดยโครงการฯ เริ่มเปิดรับสมัครในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 และปิดรับผลงานไปแล้วในวันที่ 31 พฤษภาคม 2565
การจัดการประกวดครั้งนี้ได้มีการจัดทําหลักสูตรออนไลน์เพื่อให้ผู้เข้าสมัครมีความเข้าใจกระบวนการ เเละวิธีการที่ถูกต้องในการผลิตสื่อวิดีทัศน์ (คลิปวีดิโอ) เพื่อเข้าร่วมเเข่งขันทั้งหมด 5 หลักสูตร ซึ่งแต่ละหลักสูตรมีความยาวประมาณ 15 นาที ผู้ส่งผลงานเข้าประกวดสามารถศึกษาเรียนรู้หลักสูตร ออนไลน์ ที่โครงการฯได้จัดทําขึ้น เมื่อเรียนจบสามารถนําองค์ความรู้มาใช้ผลิตผลงานได้ พร้อมยังจัดทําระบบในการสมัคร เเละการคัดเลือก โดยการนำเทคโนโลยีที่เรียกว่า Web Application เข้ามาใช้จัดการระบบ การประกวดเพื่อให้เหมาะสมกับสังคมยุค Next Normal ที่มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการพัฒนาระบบ หลากหลายด้าน ตามนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจ Thailand 4.0
นายธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวเสริมว่า กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยเเละสร้างสรรค์ มีพันธกิจที่สนับสนุน และส่งเสริมในการกระตุ้นให้เกิด “สื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์” ร่วมกับภาคีเครือข่ายต่าง ๆ เพื่อสร้างนวัตกรรมสื่อทลายกรอบการผลิตเนื้อหาแบบเดิมๆ เพิ่มเนื้อหาที่เป็นทางเลือกในการรับรู้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และนําเสนอข้อมูลในมิติที่คนต้องการเพื่อการเล่าเรื่องที่รอบด้านหลากหลายแง่มุม และขับเคลื่อนประเด็นที่เป็นประโยชน์สู่การมีส่วนร่วมของคนในสังคม พร้อมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงเเละเข้าใจ เเละสามารถใช้ประโยชน์จากสื่อที่ดีได้อย่างทั่วถึง รวมถึงการผลักดันส่งเสริมให้เด็กเเละเยาวชนมีทักษะเเละรู้เท่าทันสื่อ สามารถนําองค์ความรู้ต่างๆ มาผลิตสื่ออย่างสร้างสรรค์ ยกระดับเเละเพิ่มมูลค่าสื่อในสังคม
นอกจากนี้ นายธนกร ได้กล่าวถึงความสำเร็จของโครงการว่า โครงการ“เยาวชนสร้างสรรค์สื่อ สื่อสร้างสรรค์วัฒนธรรม” มีกลุ่มเป้าหมายตอบรับเเละสมัครเข้าร่วมส่งผลงานอย่างดี โดยมีผู้สนใจเข้าศึกษาข้อมูลผ่านระบบจำนวน 2,539 คน สมัครเข้าร่วมโครงการจำนวน 1,595 คน และส่งผลงานเข้าชิงรางวัลจำนวน 950 ผลงานจากทั่วประเทศ ส่วนเกณฑ์ในการพิจารณาแบ่งเป็น 5 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ ความเข้าใจและความถูกต้องของเนื้อหาตามวัตถุประสงค์โครงการ 30 คะแนน การสร้างสรรค์วัฒนธรรมในมุมมองสร้างสรรค์ 20 คะแนน การนําเสนอเนื้อหาการเขียนบทและการลําดับเรื่องให้น่าสนใจ 20 คะแนน เทคนิคและคุณภาพการถ่ายทําที่สร้างสรรค์สมบูรณ์ 15 คะแนน การตัดต่อผลงานนําเสนออย่างสร้างสรรค์ลงตัวกับเนื้อหา 15 คะแนน รวมคะแนนทั้งหมด 100 คะแนน
โดยการคัดเลือกผลงานจะถูกคัดเลือกในระดับจังหวัด สู่การคัดเลือกในระดับประเทศ ทั้งสิ้น 17 ผลงาน เเละมีรางวัลมหาชนจากการโหวตที่ทางโครงการฯ ได้ประชาสัมพันธ์เฟ้นหา อีก 1 รางวัล รวมทั้งสิ้น 18 รางวัล พร้อมรับโล่รางวัลจากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยเเละสร้างสรรค์ โดยมีรายละเอียดรางวัลดังนี้
รางวัลชนะเลิศ จำนวน 1 รางวัล รางวัลละ 50,000 บาท พร้อมโล่รางวัล ได้แก่ผลงานชื่อ “หล่นลงในดงใจ” จังหวัด ชลบุรี โดย นางสาวพิชามญชุ์ ธวัลรัตน์โภคิน
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จำนวน 2 รางวัล รางวัลละ 40,000 บาท พร้อมโล่รางวัล ได้แก่1.ผลงานชื่อ “ต๋าแหลว” ที่ยึดเหนี่ยวของชาวแม่จริมที่ยังคงอยู่ จังหวัด น่าน โดย นายณัฐภัทร บุญทิพย์
2.ผลงานชื่อ “สืบชะตา” จังหวัด เชียงใหม่ โดย นายอติกันต์ แสงศรีจันทร
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จำนวน 4 รางวัล รางวัลละ 30,000 บาท พร้อมโล่รางวัล ได้แก่1.ผลงานชื่อ “หอมเคย”จังหวัด นครศรีธรรมราช โดย นายธนชาติ ใจหล่อ
2.ผลงานชื่อ “เสาเล้าเสารู้” จังหวัด ขอนแก่น โดย นางสาวนชกมล เหล่าสพาน
3.ผลงานชื่อ “L. A. ที่บ้านเรา” จังหวัด ร้ออยเอ็ด โดย นายศุภวุฒิ นาเมืองรักษ์
4.ผลงานชื่อ “CD ไทใหญ่ ถัวเน่าแผ่น” จังหวัด แม่ฮ่องสอน โดย นายสิรธีร์ บุญทา
รางวัลชมเชย จำนวน 10 รางวัล รางวัลละ 10,000 บาท พร้อมโล่รางวัล ได้แก่1.ผลงานชื่อ “ต้นตํารับแห่งขนมไทย” จังหวัด พระนครศรีอยุธยา โดย นายแม็กซ์ อิมโมเนน
2.ผลงานชื่อ “Miracle of Culture มหัศจรรย์แห่งวัฒนธรรม2ศาสนา” จังหวัด สงขลา โดย นายศิริโชค สังคะโต
3.ผลงานชื่อ “ห้อมฮ้อมฮัก” จังหวัด แพร่ โดย นายเตชิต สุขวัฒนานนท์
4.ผลงานชื่อ 101 เมืองที่ไม่ได้มีดีแค่ “หอโหวด” จังหวัด ร้อยเอ็ด โดย นายญาณพัฒน์ บุภักดี
5.ผลงานชื่อ “เพลงบอกหัวไทร” จังหวัด นครศรีธรรมราช โดย นางสาวกิ่งกาญจนา เทพแก้ว
6.ผลงานชื่อ “ไหว้ครูหมอหนังฝังความรักวัฒนธรรม” จังหวัด พัทลุง โดย เด็กชายณัฐนนท์ ปานสง
7.ผลงานชื่อ “1 Day Trip ลูกประคบบางกระเจ้ามีดีอะไร” จังหวัด สมุทรปราการ โดย โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย
8.ผลงานชื่อ “เสียงเรียกหาเมืองลับแล” จังหวัด อุตรดิตถ์ โดย นายไตรภพ คําเบ้า
9.ผลงานชื่อ “Ku Bua Culture” จังหวัด ราชบุรี โดย นางสาวธนพร นราเก
10.ผลงานชื่อ “สืบสานInnovation” จังหวัด อุดรธานี โดย นายเมธิชัย สุภโตษะ
และ รางวัล Popular Vote จำนวน 1 รางวัล รางวัลละ 30,000 บาท พร้อมโล่รางวัล ได้แก่
ผลงานชื่อ “สืบสานInnovation” จังหวัด อุดรธานี โดย นายเมธิชัย สุภโตษะ
กิจกรรมการประกวดสื่อสร้างสรรค์ของเด็กและเยาวชน ในโครงการสร้างสรรค์ไทยในครั้งนี้ จะเป็นอีกเสียงสะท้อนทางความคิดของเด็กและเยาวชนทั่วประเทศที่จะบอกเล่าเรื่องราววัฒนธรรมท้องถิ่นของตนในรูปแบบสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ เเละเป็นการเผยแพร่อัตลักษณ์ของ วิถีชีวิตในชุมชน ประเพณีและวัฒนธรรม วิถีชีวิตในท้องถิ่น และจะเป็นการสร้างความตระหนักรู้ในการปกป้องรักษามรดกทางวัฒนธรรมของคนในชุมชนและสังคมอีกด้วย รวมทั้งจะเป็นการส่งเสริม เศรษฐกิจฐานรากของประเทศ ด้วยการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนต่อไป โดยงานมอบรางวัลของ โครงการฯ ในครั้งนี้เป็นการมอบเกียรติคุณทางองค์ความรู้ความคิดสร้างสรรค์ของเยาวชนไทย ที่มีส่วนร่วมที่ส่งเสริมอัตลักษณ์ วัฒนธรรมท้องถิ่นที่สวยงาม ต่อยอดในเชิงสร้างสรรค์กับเทคโนโลยีที่ใกล้ตัวให้เกิดประโยชน์สูงสุด เผยเเพร่สู่สาธารณะเป็นการเพิ่มมูลค่าเชิงวัฒนธรรมอย่างดี นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวสรุป.
โดยสามารถรับชมผลงานการผลิตคลิปวิดีโอส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่นในหัวข้อ “เยาวชนสร้างสรรค์สื่อ สื่อสร้างสรรค์วัฒนธรรม” จากเยาวชนคนครีเอทีฟได้ที่ และเฟซบุ๊กเพจ: สร้างสรรค์ไทย และติดตามข่าวสารและกิจกรรมประกวดต่างๆของโครงการ สร้างสรรค์ไทย (Creative Thai) ผ่านทางเฟซบุ๊กเพจ : กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และเฟซบุ๊กเพจ: สร้างสรรค์ไทย หรือเพิ่มเพื่อนผ่านไลน์แอด: @creativethai
No comments:
Post a Comment