นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดงานสวดมนต์ข้ามปี ภายใต้ชื่อ “สวดมนต์ข้ามปี เสริมสิริมงคลทั่วไทยส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับศักราชใหม่ 2566” ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ถึงวันที่ 1 มกราคม 2566 เพื่อถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ รวมทั้งเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาและสร้างแรงจูงใจให้ประชาชน ลด ละ เลิกอบายมุข เสริมสิริมลคลในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ พุทธศักราช 2566 โดยการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีในปีนี้ นับเป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง ที่กระทรวงวัฒนธรรมได้รับพระเมตตาจากสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกได้ประทานไฟพระฤกษ์ให้แก่กระทรวงวัฒนธรรม เพื่อเชิญไปถวายเจ้าคณะจังหวัดทุกจังหวัด ทั่วประเทศ จุดในพิธีสวดมนต์ข้ามปี เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เสริมสร้างความสามัคคี พร้อมทั้งสร้างขวัญกำลังใจแก่พุทธศาสนิกชนที่เข้าร่วมในพิธี และเป็นสิริมงคลในการเข้าสู่ศักราชใหม่
โดยในส่วนกลาง จัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีในวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เขตพระนคร และวัดอรุณราชวราราม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร โดยวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม จะเป็นศูนย์กลางการถ่ายทอดสัญญาณภาพงานสวดมนต์ข้ามปีเชื่อมโยงการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีในส่วนภูมิภาคของประเทศไทยและต่างประเทศ ผ่านทางสถานีวิทยุโทรทัศน์และช่องทางอื่นๆ นอกจากนี้ยังได้ขอความร่วมมือองค์การศาสนา เชิญชวนศาสนสถานในสังกัดจัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ รวมทั้งถวายพระพรชัยมงคล ตามหลักศาสนบัญญัติของศาสนานั้นๆ โดยศาสนาคริสต์ จัดพิธีบูชาขอบพระคุณปีใหม่ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดูจัดพิธีสวดมนต์ขอพระต้อนรับปีใหม่ ศาสนาซิกข์ จัดพิธีสวดอัรดาส ขอพรต้อนรับปีใหม่ สำหรับในช่วงเช้าของวันที่ 1 มกราคม 2566 จะมีการจัดตักบาตรรับปีใหม่ ของพุทธศาสนิกชน เพื่อความเป็นสิริมงคลพร้อมกันทั่วประเทศ
สำหรับการเดินทางของประชาชนที่จะมาร่วมงานสวดมนต์ข้ามปีที่วัดพระเชตุพนฯและวัดอรุณฯ ได้รับความร่วมมือองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก) ได้บริการเดินรถโดยสารประจำทางเดินรถเพื่อรับ-ส่ง ผู้เข้าร่วมกิจกรรมโดยบริเวณรอบวัด และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (MRT) สถานีสนามไชยได้ขยายเวลาการบริการเดินรถเพื่อรับ – ส่งผู้เข้าร่วมกิจกรรม ถึงเวลา 02.00 น.ของวันที่ 1 มกราคม 2566 รวมถึงจัดสถานที่จอดรถบริเวณใกล้เคียง ในส่วนภูมิภาค ขอความร่วมมือสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด จัดตั้งศูนย์อำนวยการกลางการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีของจังหวัด และอำนวยความสะดวกให้กับหน่วยงานต่างๆที่จัดกิจกรรม
นอกจากนี้องค์กรเครือข่ายทางพระพุทธศาสนาในจังหวัด ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชนท้องถิ่น ได้ร่วมจัดกิจกรรมหรือสนับสนุนการดำเนินงาน ตลอดจนประชาสัมพันธ์เผยแพร่การจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีและกิจกรรมตักบาตรรับปีใหม่ โดยร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน 15 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดบึงกาฬ ศรีสะเกษ สุรินทร์ เชียงราย มุกดาหาร อุบลราชธานี นครพนม หนองคาย เลย ระนอง ตาก ตราด แม่ฮ่องสอน สงขลา และนราธิวาส จัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีอาเซียนให้สอดคล้องกับแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับเทศกาล ประเพณี พิธีทางศาสนาและพิธีการต่างๆ ของจังหวัด โดยส่งเสริมให้ประชาชนร่วมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีฯ ตามวัด/ศาสนสถาน หรือสถานที่จัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีฯ ต่างประเทศ ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ประสานความร่วมมือไปยังวัดไทยและวัดทางพระพุทธศาสนาในต่างประเทศทั่วโลกร่วมจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี เช่น จีน ญี่ปุ่น ลาว เวียดนาม เมียนมา สิงคโปร์ ศรีลังกา อินเดีย เนปาล ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกา เป็นต้น
การสวดมนต์ข้ามปีในปีนี้จะเป็นกิจกรรมสำคัญที่ประชาชนจะได้ร่วมก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่ด้วยความเป็นสิริมงคลทั่วไทย ก่อเกิดอานิสงส์ที่สำคัญ คือ 1.) ลดความเสี่ยงจากอบายมุข อุบัติเหตุ และความชั่วร้าย 2.) เป็นการทำบุญใหญ่ให้กับชีวิต ทั้งทางกาย จิต และปัญญา 3.) เป็นการส่งท้ายด้วยธรรมะ และต้อนรับด้วยศีล 4.) เป็นการสร้างบรรยากาศรู้เช่นเห็นจริงในสัจธรรม 5.) เริ่มต้นชีวิตด้วยสิ่งที่เป็นมงคล อันจะส่งผลให้ได้พบสิ่งที่เป็นมงคลตลอดทั้งปี
นอกจากนี้ กรมการศาสนายังได้จัดทำเว็บไซต์สวดมนต์ข้ามปีฯ (www.prayer2566.com) เพื่อเพิ่มโอกาสให้เด็ก เยาวชน และประชาชนได้มีโอกาสสวดมนต์ได้ในทุกสถานที่ ทุกช่วงเวลาตามอัธยาศัย และยังสามารถเขียนคำอวยพรในการ์ดอวยพรปีใหม่ (ส.ค.ส) แบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Card) แล้วส่งต่อให้ผู้อื่นผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) ได้อีกด้วย สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.dra.go.th โทรศัพท์ 0 2209 3728 สายด่วนวัฒนธรรม 1765
No comments:
Post a Comment