เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ และนายธฤต จรุงวัฒน์ เลขาธิการมูลนิธิไทย ร่วมแถลงข่าวโครงการทูตสาธารณะ ประจำปี 2566 (Public Diplomacy Award 2023) ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 2 เพื่อเชิดชูเกียรติบุคคล กลุ่มบุคคล หรือองค์กร ที่มีการดำเนินงานเพื่อสาธารณประโยชน์ มนุษยธรรม ส่งเสริมวัฒนธรรม กีฬา นวัตกรรม เป็นต้น จนสามารถสร้างชื่อเสียงแก่ประเทศไทยจนเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ พร้อมเชิญชวนเสนอชื่อผู้สมควรเข้ารับการคัดเลือกได้รับรางวัลการทูตสาธารณะ ประจำปี 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม นี้ – 31 กรกฎาคม 2566 สามารถส่งแบบเสนอชื่อได้สองช่องทาง ได้แก่ ทางไปรษณีย์ไปยังมูลนิธิไทย กระทรวงการต่างประเทศ หรือทางอีเมล Info@thailandfoundation.or.th
นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่าที่มาของรางวัลการทูตสาธารณะว่า ทางกระทรวงฯ ตระหนักดีว่าเรื่องการทูตไม่ใช่แค่เรื่องของกระทรวงการต่างประเทศ หรือแค่ภาครัฐเท่านั้นที่ดำเนินการในเรื่องของการส่งเสริมความสัมพันธ์ โดยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมีหลายระดับ ทั้งความสัมพันธ์ระดับรัฐต่อรัฐ ระหว่างรัฐบาลต่อหน่วยงานราชการ ความสัมพันธ์ด้านธุรกิจการค้ากับภาคเอกชน รวมทั้งความสัมพันธ์ในระดับประชาชน ซึ่งมีพี่น้องคนไทยจำนวนมากที่ช่วยสร้างความตระหนักรับรู้ ความนิยมชมชอบเกี่ยวกับประเทศไทย ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม และเพื่อสร้างสังคมที่ส่งเสริมคนดี และเชิดชูบุคคลเหล่านั้น ทางกระทรวงฯ จึงได้หารือกับมูลนิธิไทย จัดโครงการรางวัลการทูตสาธารณะขึ้นเพื่อเชิดชูเกียรติบุคคล กลุ่มบุคคล หรือองค์กรที่มีการดำเนินงานเพื่อสาธารณประโยชน์ มนุษยธรรม ส่งเสริมวัฒนธรรม กีฬา นวัตกรรม เป็นต้น จนสามารถสร้างชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ
ด้าน นายธฤต จรุงวัฒน์ เลขาธิการมูลนิธิไทย กล่าวว่า การทูตสาธารณะ (Public Diplomacy) เป็นการดำเนินการเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีไปยังชาวต่างประเทศโดยตรง เพื่อให้เขารู้จัก เข้าใจประเทศไทย คนไทยและความเป็นไทยดีขึ้น เกิดเป็นความนิยม ชื่นชม หรือเรียกว่าการสร้าง "แฟนคลับ" ให้กับประเทศไทย คนไทย และความเป็นไทยนั่นเอง
พิธีมอบรางวัลการทูตสาธารณะ จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2565 โดยผู้ได้รับรางวัลคนแรกคือนายแพทย์สุนทร อันตรเสน แพทย์เฉพาะทางแผนกหู คอ จมูก โรงพยาบาลราชวิถี ที่มีความปรารถนาดี อยากช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ได้ตั้งหน่วยแพทย์อาสาจากทุนทรัพย์ของตนเองเพื่อเดินทางรักษาผู้ป่วยโรคหูน้ำหนวกทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่องและยาวนานกว่า 30 ปี รักษาผู้ป่วยไปแล้วกว่า 70,000 รายใน 10 ประเทศ
สำหรับรางวัลการทูตสาธารณะประจำปี 2566 นี้ มีจำนวน 1-3 รางวัล จะมอบให้แก่บุคคล กลุ่มบุคคล หรือองค์กร ทั้งสัญชาติไทยหรือต่างชาติ โดยมูลนิธิไทย และ กต. ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการคัดเลือกผู้สมควรได้รับรางวัล ประจำปี 2566 ภายใต้คณะกรรมการมูลนิธิไทย ประกอบด้วยข้าราชการระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศ เลขาธิการมูลนิธิไทย ผู้แทนภาควิชาการ ภาคประชาสังคม และภาคสื่อมวลชน จำนวนรวม 9 คน ร่วมกันพิจารณาผลงานของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อ และคัดกรองผู้สมควรได้รับรางวัลเพื่อเสนอ
รางวัลที่ได้รับ ประกอบด้วย 1) การจารึกชื่อผู้ได้รับรางวัลบนถ้วยรางวัลที่มีชื่อว่า “Goodwill” หรือ “ความปรารถนาดี” ซึ่งจะจัดแสดงที่ กระทรวงการต่างประเทศ 2) ถ้วยรางวัลที่มีการสลักชื่อมอบให้เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ได้รับรางวัล 3) การจารึกชื่อบนแผ่นป้ายเกียรติยศ ที่กระทรวงการต่างประเทศ 4) ประกาศนียบัตรประกาศเกียรติคุณ และ 5) เงินรางวัลจำนวน 300,000 บาท/รางวัล
ทั้งนี้ บุคคลทั่วไปสามารถร่วมเสนอชื่อบุคคล กลุ่มบุคคลหรือองค์กรที่สมควรได้รับรางวัลการทูตสาธารณะ ประจำปี 2566 ได้ เปิดรับการเสนอชื่อตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2566 ถึง 31 กรกฎาคม 2566 สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่มูลนิธิไทย หมายเลขโทรศัพท์ 02-203-5000 ต่อ 11031 หรืออีเมล info@thailandfoundation.or.th และติดตามรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์มูลนิธิไทย www.thailandfoundation.or.th
No comments:
Post a Comment