นายกมลภู ภูริดิฐสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยไมโคร ดิจิทัล โซลูชั่นส์ จำกัด กล่าวว่า “เมื่อ 3 ปีก่อนหน้านี้ เราได้พัฒนาแอปพลิเคชันกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ขึ้นในชื่อ ไมโครเพย์ อี-วอลเล็ท โดยมีเป้าหมายเพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าใช้ในการค้าขายภายใต้แนวคิด ‘เพื่อทุกชีวิตค้าขาย’ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 มีผู้ที่สมัครใช้บริการแอปพลิเคชันสำเร็จมากกว่า 3.5 แสนราย นอกจากนี้ บริษัทไทยไมโครยังได้พัฒนาระบบ ไมโครเพย์ช่วยเก็บ สำหรับอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าของตลาดในการบริหารจัดการค่าเช่าแผง ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าสาธารณูปโภคอื่น ๆ เพื่อช่วยลดต้นทุน ลดการถือเงินสด อำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมดังกล่าว สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และมีความปลอดภัยสูง”
ปัจจุบันมีตลาดนำร่องใช้ระบบ ไมโครเพย์ช่วยเก็บ ในการบริหารจัดการแล้ว 11 แห่ง ได้แก่
(1) ตลาดท่าล้อ จ.กาญจนบุรี
(2) ตลาดสุวรรณภูมิ 2
(3) ตลาดสุวรรณภูมิ 3 จ.สมุทรปราการ
(4) ตลาดสุทธินนท์ จ.ตรัง
(5) ตลาดโรงสีหนองเบน จ.นครสวรรค์
(6) ตลาดเจริญกัลป์ จ.ปทุมธานี
(7) ตลาดสดคลอง 16 จ.ฉะเชิงเทรา
(8) ตลาดบุญเรือง กรุงเทพฯ
(9) ตลาดทุ่งลม จ.เพชรบุรี
(10) ตลาดธันยา จ.นครปฐม และ
(11) ตลาดแก่งเสี้ยน จ.กาญจนบุรี
โดยหลังจากที่ตลาดทั้ง 11 แห่ง ได้นำระบบ ไมโครเพย์ช่วยเก็บ ไปใช้ในการบริหารจัดการแล้ว บริษัทไทยไมโครได้ทำผลสำรวจความพึงพอใจ พบว่า เจ้าของตลาดมีความพึงพอใจมากถึง 85% ซึ่งบริษัทไทยไมโครมีแผนที่จะดำเนินการนำเสนอระบบ ไมโครเพย์ช่วยเก็บ ให้กับเจ้าของตลาดเพิ่มเติมให้ได้มากที่สุด เพื่อตอบรับสังคมไร้เงินสดในปัจจุบัน
“เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ไมโครเพย์ อี-วอลเล็ท จะเป็นแอปพลิเคชันที่เป็นประโยชน์สำหรับพ่อค้าแม่ค้า และตอบโจทย์ ‘เพื่อทุกชีวิตค้าขาย’ อย่างแท้จริง ในขณะที่ระบบ ไมโครเพย์ช่วยเก็บ ก็จะเป็นประโยชน์ให้กับเจ้าของตลาดมากที่สุดเช่นกัน” นายกมลภูกล่าว
No comments:
Post a Comment