ปัจจุบันแม้ว่าสถานการณ์จำนวนเด็กเกิดใหม่ในแต่ละปีของประเทศไทย มีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง จากปี พ.ศ. 2554 ที่มีเด็กเกิด จำนวน 782,198 คน จนในปี พ.ศ. 2565 มีจำนวนเด็กเกิด 485,085 คน และมีแนวโน้มจะลดลงอีก แต่ในกลุ่มวัยรุ่นยังพบปัญหาการตั้งท้องก่อนวัยอันควรอยู่โดยจากข้อมูลสถานการณ์ล่าสุดของกรมอนามัยในปี พ.ศ. 2565 วัยรุ่นหญิงอายุ 10-19 ปี คลอดบุตรรวมทั้งสิ้น 42,457 คน หรือเฉลี่ย 116 คนต่อวัน ส่วนการคลอดซ้ำมีจำนวน 3,181 คน หรือประมาณร้อยละ 7.5 โดยกลุ่มที่เป็นปัญหาสำคัญ คือ วัยรุ่นหญิงอายุ 15-19 ปี พบมีการคลอดบุตรทั้งสิ้น 40,888 คน หรือประมาณ 112 คนต่อวัน
สำหรับสถานการณ์ดังกล่าว ภาครัฐ ได้มีแนวทางสำหรับประชาชนให้เข้าถึงการคุมกำเนิด โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช) ให้บริการวางแผนครอบครัว รวมถึงการคุมกำเนิดทั้งแบบชั่วคราว ได้แก่ ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน ยาฉีดคุมกำเนิด ยาฝังคุมกำเนิด ห่วงอนามัย และแบบถาวร ได้แก่ การทำหมันหญิงและชาย โดยไม่มีค่าใช้จ่าย สำหรับคนไทยทุกสิทธิ์การรักษา
“สิ่งสำคัญคือการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา การให้ความรู้และทัศนคติที่ถูกต้องเกี่ยวกับเพศศึกษา และการคุมกำเนิดควรเริ่มตั้งแต่ระดับครอบครัว ดังนั้น เราควรส่งเสริมพ่อแม่ผู้ปกครองเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่จะสามารถพูดคุยอย่างมีทักษะและให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ป้องกันการตั้งท้องก่อนวัยอันควร เพื่อการตั้งครรภ์ที่มีคุณภาพ”นายแพทย์บุญฤทธิ์ กล่าว
ด้าน ผศ.ดร.สุกัญญา ศรีโพธิ์ เลขาธิการสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี กล่าวว่า วัยรุ่นและวัยเจริญพันธุ์จำนวนมากยังต้องการการสนับสนุนการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อสามารถเลือกวิธีที่สามารถตอบโจทย์กับความต้องการและลักษณะการใช้ชีวิต แม้ว่าปัจจุบันวัยรุ่นจะเข้าถึงข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์ แต่อาจได้รับข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนและอาจไม่ถูกต้อง เพราะการคุมกำเนิดเป็นเรื่องที่มีรายละเอียดที่ต้องทำความเข้าใจในปีนี้ สวท ได้จัดทำคู่มือวิธีการคุมกำเนิด ซึ่งได้รับเกียรติจากสูตินรีแพทย์ รศ.ร.อ.นพ.มานพชัย ธรรมคันโธ ร.น. ที่ปรึกษาคณะกรรมการสมาคมฯ เป็นผู้ให้ความรู้ ซึ่งจัดทำทั้งในรูปแบบของเอกสารประชาสัมพันธ์มอบให้กับเภสัชกรที่ร้านขายยา เพื่อเป็นคู่มือให้คำปรึกษา และจัดทำเป็นข้อมูลในรูปแบบ infographic เกี่ยวกับวิธีการคุมกำเนิด และประสิทธิภาพของวิธีการคุมกำเนิด เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับใช้ในการตัดสินใจเลือกวิธีการคุมกำเนิดให้เหมาะกับตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทำการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียของ สวท (Facebook Page สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทยฯ และ TikTok /@ppat.official) และสำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ (Facebook Page คลับนี้เลดี้คุม: https://www.facebook.com/clubneeladykhum และ TikTok คลับนี้เลดี้คุม: https://www.tiktok.com/ @younglovethailand) ตลอดเดือนกันยายนนี้
อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญคือการส่งเสริมให้มีการเกิดอย่างมีคุณภาพ มีลูกเมื่อพร้อม ดังนั้นหากยังไม่พร้อมควรจะมีการคุมกำเนิด ซึ่งถือเป็นความรับผิดชอบร่วมกันทั้งจากฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย การคุมกำเนิดมีทางเลือกหลายวิธี อาทิ ฝ่ายชายสามารถใช้ถุงยางอนามัย ควบคู่กับฝ่ายหญิงที่สามารถเลือกวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงและสะดวก อาทิ ยาเม็ดคุมกำเนิด หรือเลือกยาฝังคุมกำเนิด เพราะนอกจากจะป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พร้อมแล้ว ยังสามารถป้องกันโรคติดต่อต่างๆ ที่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย
นางสาวจินอา ลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไบเออร์ไทย จำกัด และผู้จัดการทั่วไปกลุ่มธุรกิจฟาร์มาซูติคอล กล่าวว่า สำหรับไบเออร์ มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ในแต่ละปีมีผู้หญิง 100 ล้านคนในประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลางสามารถเข้าถึงการคุมกำเนิดสมัยใหม่ให้ได้ภายในปี พ.ศ. 2573 ซึ่งในปีพ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา ไบเออร์ได้ทำให้ผู้หญิงในประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลางเข้าถึงการคุมกำเนิดสมัยใหม่ไปแล้ว 44 ล้านคนซึ่งในฐานะบริษัทชั้นนำด้านวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตและการดูแลสุขภาพผู้หญิงมากว่า 60 ปี ไบเออร์ไทยได้ร่วมรณรงค์ผ่านแคมเปญ Bayer For Her โดยสนับสนุนผู้หญิงทุกวัยให้มีความกล้าที่จะแชร์เรื่องสุขภาพผ่าน #ConversationsOfCare #เรื่องผู้หญิงพูดสิพูดได้ และปรึกษาบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและมีทางเลือก สามารถที่จะตัดสินใจเพื่ออนาคตของตัวเองได้
ทั้งนี้วันคุมกำเนิดโลกนี้ เป็นอีกหนึ่งวันสำคัญที่ทุกภาคส่วนมาร่วมกันรณรงค์เพื่อเป้าหมายเดียวกัน นั่นคือการลดการตั้งครรภ์โดยไม่ได้วางแผนของวัยรุ่น และสำหรับไบเออร์ ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์นี้มาตลอดระยะเวลา 16 ปีที่ผ่านมา
แพทย์หญิงปานียา สูตะบุตร ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ แผนกฟาร์มาซูติคอล บริษัท ไบเออร์ไทย จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์การตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ทั่วโลกยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในแต่ละปีมีผู้หญิงเกือบครึ่งหนึ่งของผู้หญิงทั้งหมดทั่วโลกเกิดปัญหาตั้งครรภ์โดยไม่ได้วางแผนเป็นจำนวน 121 ล้านคนต่อปี หรือ 332,000 คนต่อวัน สาเหตุหลักมาจากการขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องของการคุมกำเนิดและการเลือกใช้วิธีการคุมกำเนิดที่ไม่เหมาะสม และผู้หญิงมากกว่า 60% ของจำนวนการตั้งครรภ์ไม่พร้อมได้มีการทำแท้ง และ 45% ของการทำแท้งเป็นการทำแท้งที่ไม่ปลอดภัย
สำหรับแนวทางการรณรงค์เนื่องในวันคุมกำเนิดโลก ปี 2566 ภายใต้แคมเปญ #ชีวิตที่เราเลือกได้ Choices : Your Life. Your Choices มีการดำเนินกิจกรรมที่หลากหลายเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย อาทิ จัดกิจกรรมวันคุมกำเนิดโลก 2566 บริเวณสยามสแควร์ ในวันที่ 26 กันยายน 2566 โดยมีกิจกรรมรณรงค์ในรูปแบบต่างๆ
• จัดกิจกรรมวันคุมกำเนิดโลก 2566 บริเวณสยาม สเคป ในวันที่ 26 กันยายน 2566 โดยมีกิจกรรมรณรงค์ ทั้งการเสวนาโดยนายแพทย์โอฬาริก มุสิกวงศ์ สูตินรีแพทย์ และนักแสดงวัยรุ่น ‘สตางค์’ กิตติภพ เสรีวิชยสวัสดิ์ และ ‘น้ำตาล’ ทิพนารี วีรวัฒโนดม ตัวแทนเยาวชนที่จะมาแชร์ประสบการณ์ #ชีวิตที่เราเลือกได้ Choices: Your Life. Your Choices รวมถึงเดินรณรงค์ และแจกเอกสารประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับวิธีการคุมกำเนิดที่ถูกต้องให้กับวัยรุ่นในบริเวณสยามสแควร์ อีกด้วย
• จัดทำ “คู่มือวิธีการคุมกำเนิด” เพื่อเป็นคู่มือให้กับเภสัชกร สำหรับผู้เข้ารับบริการที่ร้านขายยา
• จัดทำข้อมูล infographic เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการคุมกำเนิดที่ถูกต้องผ่าน Facebook Page คลับนี้เลดี้คุม: https://www.facebook.com/clubneeladykhum และ TikTok คลับนี้เลดี้คุม: https://www.tiktok.com/@younglovethailand และโซเชียลมีเดียของสมาคมวางแผนครอบครัวฯ ทั้ง Facebook Page สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทยฯ และ TikTok /@ppat.official ตลอดเดือนกันยายน
นอกจากนี้ สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย และไบเออร์ไทย ยังจัดกิจกรรมให้ความรู้และให้คำปรึกษา ภายใต้โครงการ Young Love รักเป็นปลอดภัย ในมหาวิทยาลัย และโรงงาน ซึ่งดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2557 โดยในปี 2566 มีแผนจัดกิจกรรมทั้งสิ้น 8 ครั้ง คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 5,000 คน มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ความรู้เรื่องการคุมกำเนิดที่เหมาะสมในกลุ่มวัยรุ่น ลดการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์
No comments:
Post a Comment