DSI ขยายผลจับกุม 3 ผู้ต้องหารายสำคัญแก๊งทำบัตรประชาชนปลอมได้เพิ่มหลังตรวจค้นพร้อมกัน 3 จุด - Thailand Times

Breaking

Post Top Ad

Tuesday, 13 February 2024

DSI ขยายผลจับกุม 3 ผู้ต้องหารายสำคัญแก๊งทำบัตรประชาชนปลอมได้เพิ่มหลังตรวจค้นพร้อมกัน 3 จุด

วันนี้ (วันจันทร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567) พันตำรวจตรี ยุทธนา  แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษรักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พันตำรวจโท พเยาว์  ทองเสน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร้อยตำรวจเอก เขมชาติ  ประกายหงษ์มณี ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ พร้อมด้วย นายสมชัย  เลิศประสิทธิพันธ์ รองอธิบดีกรมการปกครอง ได้ร่วมกันแถลงข่าวเกี่ยวกับการดำเนินการในคดีพิเศษที่ 98/2566 ปรากฎรายละเอียดดังนี้

            

เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษรักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้ ร้อยตำรวจเอก เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ พร้อมด้วย นายราชพฤกษ์ ชูดำ รองผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ นายวิทวัส สุคันธรส ผู้อำนวยการศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับกรมการปกครอง โดย นางสาวขนิษฐา ถาวรวรกุล นิติการชำนาญการ นายอรรถพล ปรังพันธุ์ เจ้าพนักงานปกครองปฏิบัติการ สำนักการสอบสวนและนิติการ และเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธร เมืองสุราษฎร์ธานี นำกำลังร่วมกันตรวจค้นเพื่อจับกุมผู้ต้องหาหมายจับในคดีพิเศษที่ 98/2566 จำนวน 3 จุด พร้อมกัน ได้แก่ พื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พื้นที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี และพื้นที่จังหวัดอ่างทอง ผลการตรวจค้นได้จับกุม

            1. นายเหม (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ถูกจับกุมตัวตามหมายศาลอาญาที่ 4798/2566 ในพื้นที่จังหวัด นครศรีธรรมราช โดยพฤติการณ์เป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่ใช้ในการจ่ายค่าเปิดบัญชีธนาคารเพื่อใช้เป็นบัญชีม้าแล้วนำไปกระทำความผิดต่าง ๆ ตรวจสอบพบว่าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึง 1 มีนาคม 2566 มีการโอนเงินไปบัญชีธนาคารอื่น ๆ ในยอดเงิน 500 บาท จำนวน 248 รายการ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ตรวจสอบบัญชีธนาคารผู้รับโอนเงิน พบว่าเป็นชื่อบัญชีธนาคารที่ถูกใช้ในการหลอกลวงเงินจากผู้เสียหายด้วยวิธีการต่าง ๆ อีกหลายราย

            2. นางสาววิมลณัฐ อายุ 19 ปี ถูกจับกุมตัวตามหมายจับศาลอาญาที่ 4797/2566 ในพื้นที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยพฤติการณ์เป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่แก๊งทำบัตรประชาชนปลอมใช้รับเงินจากผู้เสียหาย เป็นบัญชีธนาคารลำดับชั้นที่ 3

            3. นางสาววลีรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ถูกจับกุมตัวตามหมายจับศาลอาญาที่ 376/2567ในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง โดยพฤติการณ์เป็นเจ้าของบัญชีธนาคารซึ่งแก๊งทำบัตรประชาชนปลอมใช้รับเงินจากผู้เสียหาย เป็นบัญชีธนาคารลำดับชั้นที่ 1 ซึ่งผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีดังกล่าวกว่า 20 ราย มีเงินโอนเข้าบัญชีรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท

            

ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย เป็นแก๊งทำบัตรประชาชนปลอมหลอกลวงชาวต่างชาติ มีพฤติการณ์ใช้เฟซบุ๊ก 2 เพจคือ “เปิดรับลงทะเบียนสิทธิ์ ทำบัตร” และ “รับสิทธิ์ลงทะเบียน” โฆษณารับทำบัตรประชาชน โดยอ้างว่าสามารถใส่ข้อมูลในระบบฐานข้อมูลของกรมการปกครองได้ ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันนําข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ร่วมกันฉ้อโกง/ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น/ฉ้อโกงประชาชน เป็นผู้สนับสนุนในความผิดฐานฟอกเงิน ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ”  กรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากกรมการปกครอง เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับกรมสอบสวนคดีพิเศษเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 ว่ามีกลุ่มบุคคลได้จัดทำเฟซบุ๊กชื่อ “เปิดรับลงทะเบียนสิทธิ์ ทำบัตร” และเฟซบุ๊ก “รับสิทธิ์ลงทะเบียน” ลงข้อความและรูปภาพโฆษณารับทำบัตรประชาชน โดยอ้างว่าสามารถใส่เพิ่มข้อมูลในระบบฐานข้อมูลของกรมการปกครองได้ มีการนำภาพบัตรประชาชนที่อ้างว่าเป็นของลูกค้ารายอื่น และรูปถ่ายข้าราชการชั้นผู้ใหญ่มาลงประกาศ (โพสต์) ในเฟซบุ๊กข้างต้นเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ทั้งนี้ ผู้ประสงค์จะทำบัตรประชาชนจะต้องเสียค่าดำเนินการ จำนวน 15,000 - 25,000 บาท และมีผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงิน แต่ไม่ได้รับบัตรประชาชนตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับเรื่องดังกล่าวเป็นคดีพิเศษที่ 98/2566 และเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้จับกุมผู้ต้องหาไปแล้ว จำนวน 3 ราย ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดนนทบุรี โดยทางคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้สรุปสำนวนดังกล่าวส่งอัยการคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา

            

กรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนที่ถูกหลอกลวงโดยกลุ่มคนร้ายและได้โอนเงินเพื่อทำบัตรประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสเข้ามายังกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ และขอแจ้งเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อเปิดบัญชีธนาคารให้กับบุคคลอื่นโดยเด็ดขาด หากเคยรับจ้างหรือถูกหลอกให้เปิดบัญชีธนาคารให้กับบุคคลอื่น ขอให้ท่านดำเนินการปิดบัญชีธนาคารดังกล่าวโดยเร็วเนื่องจากหากกลุ่มคนร้ายนำบัญชีของท่านไปใช้ในการรับเงินที่ได้จากการกระทำความผิดท่านอาจถูกดำเนินตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 







No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad


Pages