สืบนครบาล ตามรวบใหญ่บางเขน เจ้าของเพจขายรถมือสอง นำรถที่ยังติดไฟแนนซ์มาขายให้ผู้เสียหาย - Thailand Times

Breaking

Post Top Ad

Thursday, 18 April 2024

สืบนครบาล ตามรวบใหญ่บางเขน เจ้าของเพจขายรถมือสอง นำรถที่ยังติดไฟแนนซ์มาขายให้ผู้เสียหาย

สืบนครบาล ตามรวบใหญ่บางเขน เจ้าของเพจขายรถมือสอง นำรถที่ยังติดไฟแนนซ์มาขายให้ผู้เสียหาย

จากนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รรท.ผบ.ตร. ,พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมทางออนไลน์ ที่กระทำความผิดทุกรูปแบบ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้เร่งทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา ตามหมายจับเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการฉ้อโกลหลอกลวงประชาชนในสื่อสังคมออนไลน์

.

โดยเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ได้สั่งให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.    , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.ฯ , พ.ต.อ.วิชิต  ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1ฯ,พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1ฯ ,พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์  รอง ผกก.สส.1ฯ    พ.ต.ท.พัฒน์พงษ์ กื้อมะโน สว.กก.สส.1ฯ พร้อมชุดปฎิบัติการที่ 2ได้ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.ศศรินทร์ หรือใหญ่ อายุ 34 ภูมิลำเนา ถ. พหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. บุคคลตามหมายจับศาลอาญามีบุรี ที่ 660/2566 ลง 28 มิ.ย.2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกง ”  จับกุมได้ที่บริเวณปากซอยแจ้งวัฒนะ 1 แยก 6 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม.

.         

พฤติการณ์ในคดี ก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้ติดต่อทางแอปพลิเคชั่นไลน์กับผู้ต้องหา โดยผู้ต้องหาใช้ไลน์ชื่อ Rin Ben ซึ่งเป็นพนักงานขายรถยนต์(เซลล์)ได้เสนอขายรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ Cls 250 ปี2012 ดีเซล ราดา 1,259,000 บาท ผู้เสียหายได้ตกลงซื้อ ต่อมาเมื่อวันที่ 6 ต.ค.2565 ผู้ต้องหานัดหมายให้ผู้เสียหายไปทำสัญญาซื้อขายรถที่ศุนย์อาหารแถววัชรพล ตกลงกันโดยผู้เสียหายได้มอบรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์รุ่น S300 ราดา 80.,000 บาท คงค้างชำระอีกจำนวน 450,000 บาท และผู้ต้องหาได้มอบรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์รุ่น CIs 250 ปี 2012 ให้กับผู้เสียหาย ต่อมาผู้เสียหายได้ชำระส่วนที่เหลือให้ผู้ต้องหาโดยการโอนเข้าบัญชีผู้ต้องหาจำนวน 3 ครั้ง รวมจำนวน 200,000 บาท คงเหลือค้างชำระอีกจำนวน 250,000 บาท ซึ่งผู้เสียหายจะชำระให้แต่ไม่สามารถติดต่อผู้ต้องหาได้ ผู้เสียหายจึงได้ติดต่อกับ ชื่อผู้ครอบครองรถคันดังกล่าว จึงทราบว่ารถยนต์ดันดังกล่าวยังค้างค่างวดกับธนาคาร เป็นเงิน 1,209,438.23 บาท จึงเชื่อว่าถูกผู้ต้องหาหลอกลวง และได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน

.

จากการตรวจสอบประวัติจากฐานข้อมูลระบบ พบผู้ต้องหาเคยมีคดีดังนี้

1. ปี 2564 คดีฉ้อโกง ของ สภ.บางบัวทอง

2. ปี 2565 คดีพรบ.เช็ค เจตนาที่จะไม่มีให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น ของ สน.วังทองหลาง 

3. ปี 2566 คดีฉ้อโกง ของ สน.คันนายาว (ในคดีที่ถูกจับนี้)

.

จากนั้นได้นำส่งพนักงานสอบสวน  สน. คันนายาว เพื่อเนินคดีตามกฎหมายและส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

.

พล.ต.ต.ธีรเดช ขอฝากเตือนภัยไปยังประชาชน หากซื้อรถมือสองโดยไม่ทราบที่มา หรือรถที่มีการประกาศขายลักษณะเป็นการโอนลอย ให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจจะเป็นรถหนีไฟแนนซ์ หรือรถที่ถูกโจรกรรมมา ซึ่งผู้ซื้อรถมีความเสี่ยงถูกดำเนินคดีความผิดทางอาญาข้อหายักยอกทรัพย์หรือรับของโจร วิธีที่ง่ายและถูกต้องตามกฎหมาย ควรซื้อรถจากเจ้าของโดยตรง แล้วโอนกรรมสิทธิ์ชื่อครอบครองเป็นของตนให้ถูกต้อง 








No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad


Pages