ศาลอาญาพิพากษาจำคุก 51 ปี คดีพ่อละเมิดทางเพศลูกตนเองและโพสต์คลิปลงดาร์กเว็ปเผยแพร่ในเยอรมัน
กรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอประชาสัมพันธ์คำพิพากษาศาลอาญา คดีหมายเลขดำที่ 1111/2567 คดีหมายเลขแดงที่ 2173/2567 ลงวันที่ 15 กรกฎาคม 2567 กรณีพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายโทนี่ (นามสมมุติ) ในคดีความผิดเกี่ยวกับเพศ และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ เป็นคดีพิเศษที่ 123/2566
คดีดังกล่าวสืบเนื่องจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ส่วนคดีละเมิดทางเพศเด็ก ได้รับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำนักงานตำรวจสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (Bundeskriminalamt : BKA) พร้อมหลักฐานภาพถ่ายและวิดีโอบ่งชี้ว่ามีบุคคลต้องสงสัยในประเทศไทยกระทำการล่วงละเมิดทางเพศเด็กและเผยแพร่ในดาร์กเว็บและเผยแพร่ในประเทศเยอรมัน กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ โดยส่วนคดีละเมิดทางเพศเด็ก จึงได้ประสานข้อมูลกับองค์การ OUR RESCUE สืบสวนข้อมูลเชิงลึก พบว่าผู้ต้องหาอาศัยอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย กระทั่งเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2567 พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้ ร้อยตำรวจเอก เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ นางสาวกรรณิการ์ สุขสมนิล ผู้อำนวยการส่วนคดีละเมิดทางเพศเด็ก พร้อมด้วยนายวุฒิไกร ศรีธวัช ณ อยุธยา ผู้อำนวยการส่วนสะกดรอยและการข่าว ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำนักงานตำรวจสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และองค์การ OUR RESCUE นำหมายค้นบ้านพักและจับกุมตัวนายโทนี่ฯ อายุ 34 ปี ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผลการตรวจค้นพบของกลางเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บรรจุไฟล์ภาพลามกอนาจารเด็ก มากกว่า 22,600 ไฟล์ รวมทั้งมีภาพผู้เสียหายที่เป็นบุตรสาวของตนเองด้วย และต่อมาคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 123/2566 ได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษให้แก่พนักงานอัยการและมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 และพนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องผู้ต้องหาต่อศาลอาญาแล้ว
ล่าสุดวันนี้ (วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม 2567) เวลา 09.00 น. ศาลอาญาได้อ่านคำพิพากษา ให้จำคุกจำเลย 51 ปี ฐานกระทำชำเราเด็กอายุต่ำกว่า 13 ที่เป็นผู้สืบสันดาน อนาจารเด็กต่ำกว่า 13 ปี และได้บันทึกภาพหรือเสียงของการกระทำชำเรา หรือการกระทำอนาจารนั้นไว้ เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ สำหรับตนเองหรือผู้อื่น ครอบครองและส่งต่อสื่อลามกอนาจารเด็ก เพื่อแสวงหาประโยชน์ทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น บังคับ ขู่เข็ญ ใช้ชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กแสดงหรือกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจาร นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลนั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 มาตรา 285 มาตรา 280/1 มาตรา 287/1 พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 มาตรา 26 (9) พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) มาตรา 14 (4) แต่เนื่องจากจำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้เหลือจำคุก 25 ปี 6 เดือน และให้ริบของกลางในคดี
No comments:
Post a Comment