นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา มอบหมายให้ นายกฤษณะ บุญสวัสดิ์ รองนายกเมืองพัทยา เป็นประธานในการประชุมสรุปผลการจัดการแข่งขันพัทยามาธอน ครั้งที่ 31 ประจำปี 2567 ที่ห้องประชุมทัพพระยา ศาลาว่าการเมืองพัทยา เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีผู้แทนจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม
ประธานแจ้งในที่ประชุมว่า "ตนได้รับมอบหมายจาก นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าจังหวัดชลบุรี ให้มาเป็นประธานสรุปภาพรวมของการจัดกาแข่งขันวิ่งมาราธอนส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับโลก รายการ อะเมซิ่งไทยแลนด์ พัทยามาราธอน 2024" ที่เพิ่งจัดการแข่งขันเสร็จสิ้นไประหว่างวันที่ 20-21 ก.ค. 64 ที่ผ่านมา ณ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งรายการดังกล่าว ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานโลก World Athletics Road Race Label ทั้ง 3 ระยะแข่งขัน คือ 42.195 กม. 21.1 กม. และ 10 กม. และถูกบรรจุในปฏิทินการแข่งขันมาราธอนอย่างเป็นทางการของสหพันธ์กรีฑาโลก มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ให้เมืองพัทยาเป็นศูนย์กลางการจัดกิจกรรมกีฬาและท่องเที่ยวของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งช่วยกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวของเมืองพัทยา และ จ.ชลบุรี"
นายกฤษณะ กล่าวอีกว่า จากการที่ไปร่วมวิ่งในนี้ด้วยตนเอง ตนรู้สึกประทับใจมาก และขอชื่นชมคณะกรรมการจัดงานฯ ที่สามารถทำออกมาได้ดี จนได้รับคำชมเป็นจำนวนมากจากนักวิ่งทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ในส่วนสิ่งที่ต้องปรับปรุงก็จะรวบรวมเพื่อแจ้งกับทางไทยแลนด์ไตรลีก เพื่อนำไปดำเนินการต่อในการจัดการแข่งขันครั้งต่อไป ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
นายกอบเกียรติ แสงวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไทยแลนด์ไตรลีก ในฐานะผู้อำนวยการจัดการแข่งขันฯ กล่าวว่า พัทยามาราธอน เป็นงานที่สเกลใหญ่มาก ถึงแม้จะมีเวลาเตรียมงานเพียงแค่ 2 เดือน ซึ่งถือว่ากระชั้นชิดมาก เมื่อเทียบกับการเตรียมงานมาราธอนรายการอื่นๆ แต่ปัจจัยสำคัญของความสำเร็จในครั้งนี้ มาจากการได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่ช่วยกันทำให้การแข่งขันดำเนินไปจนประสบความสำเร็จได้มาตรฐานระดับโลก ตนต้องขอขอบคุณ จังหวัดชลบุรี, เมืองพัทยา, กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 2, ภาครัฐและภาคเอกชนทุกท่าน ที่ให้ความร่วมมือในครั้งนี้
ส่วนการแข่งขันที่มีคนหลายหมื่นคนมาร่วมงาน ท่ามกลางหน้ามรสุม เป็นไปได้ความท้าทาย และประสบความสำเร็จด้วยดี การแข่งขันมีนักวิ่งชาวไทยและชาวต่างชาติจาก 66 ประเทศ ร่วมแข่งขันกว่า 15,000 คน และผู้ติดตามอีกกว่า 10,000 คน ก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนถึง 297 ล้านบาท เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับงบประมาณจากภาครัฐ และภาคเอกชน ในการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ทั้งสิ้น 18 ล้านบาท มีสัดส่วนสูงถึง 16 เท่า ของการลงทุน ถือว่ามีความคุ้มค่าของการใช้งบประมาณจัดงานเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
นายกอบเกียรติ กล่าวอีกว่า พัทยามาราธอน2024 มีเส้นทางแข่งขันที่ยากมากเทียบได้กับรายการมาราธอนเมเจอร์โลก อย่าง บอสตันมาราธอน ที่สหรัฐอเมริกา แต่กลับไม่มีนักวิ่งที่บาดเจ็บหนักเลย แสดงให้เห็นถึง ความพร้อมของฝ่ายแพทย์และพยาบาลที่มีประสิทธิภาพสูงมาก ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้ ทั้งความสุข ความคุ้มค่า และความปลอดภัย ที่นักวิ่งได้รับ จะเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือ และภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเมืองพัทยาและประเทศไทยในอนาคต ตนจึงมั่นใจว่า พัทยามาราธอน มีความพร้อมและเหมาะสมมากที่จะเป็นรายการมาราธอนของประเทศไทย ที่มีศักยภาพในการที่จะก้าวกระโดดไปเป็นมาราธอนเบอร์ 1 ของภูมิภาคอาเซียนได้ในอนาคตอีกไม่นานนี้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ภายหลังจบการประชุมได้มีการมอบโล่ห์เกียรติคุณให้กับทุกฝ่ายที่ได้ร่วมมือกันให้ พัทยามาราธอน ประสบความสำเร็จ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายธวัชชัย ศรีทอง มอบหมายให้เมืองพัทยาเป็นผู้มอบ และยังมีการกำหนดการแข่งขัน พัทยามาราธอน 2025 ในวันที่ 19-20 กรกฎาคม 2568 ณ เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี โดยตั้งเป้าหมายยกระดับการแข่งขันให้เป็นรายการชั้นนำของภูมิภาคอาเซียน โดยจะมีการเปิดให้ลงทะเบียนสมัครสำหรับคนไทยล่วงหน้า ในช่วงประมาณเดือนธันวาคม ปลายปีนี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.pattayamarathon.com
No comments:
Post a Comment